ASTVผู้จัดการรายวัน - “เซเว่นอีเลฟเว่น” บล็อก “แฟมิลี่มาร์ท” ผนึกเซ็นสัญญาผุดในโครงการคอนโดมิเนียมของแอล.พี.เอ็น. เรียบวุธทั้งเก่าและใหม่ หลังจากที่แฟมิลี่มาร์ทเปิดไปก่อนแล้ว 7 สาขา พร้อมเซ็นสัญญาต่ออีก 10 ปีกับปั๊ม ปตท.
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะขยายสาขาต่อเนื่อง ด้วยการเป็นพันธมิตรกับเจ้าของพื้นที่ต่างๆ เช่น ปั๊มน้ำมัน โครงการคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขาครบ 6,800 สาขา และเพิ่มเป็นกว่า 7,000 สาขาในปีหน้า
“ธุรกิจร้านสะดวกซื้อจากนี้ไปจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เพราะจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุนใหม่ที่จะเข้ามาบริหารแฟมิลี่มาร์ทที่อยู่ระหว่างการเจรจากันในเวลานี้ ส่วนเครือสหพัฒน์เองก็มีข่าวว่าอยู่ระหว่างการเจรจากับทางกลุ่มลอว์สัน ค้าปลีกรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นที่จะดึงเข้ามาเป็นพันธมิตรในไทย แต่ในส่วนของเราก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนักเพราะเราทำธุรกิจที่แข่งขันกับตัวเอง และมีการขยายสาขาและเพิ่มบริการใหม่ๆ ต่อเนื่อง”
ล่าสุดเซเว่นฯ ได้เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับทางบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “ลุมพินี” เพื่อเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นภายในโครงการคอนโดมิเนียมทุกโครงการของ แอล.พี.เอ็น. ซึ่งจะครอบคลุมถึงโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและโครงการเก่าที่เปิดให้บริการมาแล้วด้วย ซึ่งการเช่าพื้นที่เปิดร้านเซเว่นฯ ภายในโครงการคอนโดมิเนียมของ แอล.พี.เอ็นนั้นบริษัทได้เซ็นสัญญาการทำธุรกิจร่วมกันเป็นระยะเวลา 10 ปี รูปแบบของร้านที่จะนำไปเปิดให้บริการจะมีทั้ง 1 คูหา 2 คูหา และ 3 คูหา โดยแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 4-5 ล้านบาท ปัจจุบันเซเว่นฯ ได้เปิดให้บริการภายในโครงการของ แอล.พี.เอ็น.แล้วจำนวน 5 โครงการจากทั้งหมดประมาณ 80 โครงการที่ดำเนินการในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในโครงการเก่าของ แอล.พี.เอ็น.ที่มีร้านสะดวกซื้อรายเดิมเปิดให้บริการอยู่ก่อนแล้วต้องรอให้ทาง แอล.พี.เอ็น.เป็นผู้จัดสรรพื้นที่เหมาะสมเพื่อนำร้านเซเว่นฯ เข้าไปเปิดให้บริการ ซึ่งสาเหตุที่เราสนใจมาเปิดในกลุ่มโครงการของ แอล.พี.เอ็น. เพราะยอดขายของร้านที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวสูงกว่าสาขาทั่วไป หรือมียอดขายต่อวันอยู่ที่กว่า 70,000 บาท ขณะที่ค่าเฉลี่ยของสาขาทั่วไปจะอยู่ที่วันละ 60,000 บาท รวมทั้งเราจะได้ลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียงภายในรัศมีครึ่งกิโลเมตรอีกด้วย
รายงานข่าวระบุว่า เป็นที่นาสังเกตว่าโครงการคอนโดมิเนียมของกลุ่ม แอล.พี.เอ็น. ทุกวันนี้มีร้านสะดวกซื้อแบรนด์ แฟมิลี่มาร์ท เปิดให้บริการเป็นพันธมิตรอยู่ก่อนแล้ว ในโครงการคอนโดมิเนียมรวมจำนวน 7 แห่ง เช่น ลุมพินีปาร์คปิ่นเกล้า 2 โครงการ, ลุมพินีวิลล์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, โครงการที่รามอินทรา, หลักสี่, อ่อนนุช เป็นต้น ซึ่งก็เปิดโอกาสให้ทางบริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านแฟมิลี่มาร์ทสามารถต่อสัญญาเช่าพื้นที่ได้เมื่อครบสัญญา 3 ปีต่อครั้ง
นายปิยะวัฒน์กล่าวต่อว่า ในส่วนของพันธมิตรปั๊มน้ำมันอย่างปั๊มน้ำมัน ปตท.นั้น บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาต่อไปอีก 10 ปีเรียบร้อยเมื่อเดือนมีนาคมนี้เอง ซึ่งสัญญาเก่าครั้งแรกจะหมดอายุสัญญาในปี 2556 ทั้งนี้ การต่อสัญญาใหม่คาดว่าจะช่วยผลักดันให้เซเว่นฯ มีร้านในปั๊ม ปตท.เพิ่มอีก 400 กว่าสาขา จากปัจจุบันที่มีในปั๊ม ปตท.แล้ว 800 กว่าสาขา
“เราจะเข้าไปในส่วนของปั๊ม ปตท.ที่เปิดใหม่ในอนาคตทั้งหมด ขณะที่ร้านจิฟฟี่ที่เปิดให้บริการอยู่ในปั๊ม ปตท.นั้นจะเปิดให้บริการอยู่ในปั๊ม ปตท.เดิมที่ซื้อกิจการจากปั๊มน้ำมันเจ็ทเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสาขาใหม่ภายในปั๊ม ปตท.แต่อย่างใด” นายปิยะวัฒน์กล่าว
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะขยายสาขาต่อเนื่อง ด้วยการเป็นพันธมิตรกับเจ้าของพื้นที่ต่างๆ เช่น ปั๊มน้ำมัน โครงการคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขาครบ 6,800 สาขา และเพิ่มเป็นกว่า 7,000 สาขาในปีหน้า
“ธุรกิจร้านสะดวกซื้อจากนี้ไปจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เพราะจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุนใหม่ที่จะเข้ามาบริหารแฟมิลี่มาร์ทที่อยู่ระหว่างการเจรจากันในเวลานี้ ส่วนเครือสหพัฒน์เองก็มีข่าวว่าอยู่ระหว่างการเจรจากับทางกลุ่มลอว์สัน ค้าปลีกรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นที่จะดึงเข้ามาเป็นพันธมิตรในไทย แต่ในส่วนของเราก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนักเพราะเราทำธุรกิจที่แข่งขันกับตัวเอง และมีการขยายสาขาและเพิ่มบริการใหม่ๆ ต่อเนื่อง”
ล่าสุดเซเว่นฯ ได้เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับทางบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “ลุมพินี” เพื่อเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นภายในโครงการคอนโดมิเนียมทุกโครงการของ แอล.พี.เอ็น. ซึ่งจะครอบคลุมถึงโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและโครงการเก่าที่เปิดให้บริการมาแล้วด้วย ซึ่งการเช่าพื้นที่เปิดร้านเซเว่นฯ ภายในโครงการคอนโดมิเนียมของ แอล.พี.เอ็นนั้นบริษัทได้เซ็นสัญญาการทำธุรกิจร่วมกันเป็นระยะเวลา 10 ปี รูปแบบของร้านที่จะนำไปเปิดให้บริการจะมีทั้ง 1 คูหา 2 คูหา และ 3 คูหา โดยแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 4-5 ล้านบาท ปัจจุบันเซเว่นฯ ได้เปิดให้บริการภายในโครงการของ แอล.พี.เอ็น.แล้วจำนวน 5 โครงการจากทั้งหมดประมาณ 80 โครงการที่ดำเนินการในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในโครงการเก่าของ แอล.พี.เอ็น.ที่มีร้านสะดวกซื้อรายเดิมเปิดให้บริการอยู่ก่อนแล้วต้องรอให้ทาง แอล.พี.เอ็น.เป็นผู้จัดสรรพื้นที่เหมาะสมเพื่อนำร้านเซเว่นฯ เข้าไปเปิดให้บริการ ซึ่งสาเหตุที่เราสนใจมาเปิดในกลุ่มโครงการของ แอล.พี.เอ็น. เพราะยอดขายของร้านที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวสูงกว่าสาขาทั่วไป หรือมียอดขายต่อวันอยู่ที่กว่า 70,000 บาท ขณะที่ค่าเฉลี่ยของสาขาทั่วไปจะอยู่ที่วันละ 60,000 บาท รวมทั้งเราจะได้ลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียงภายในรัศมีครึ่งกิโลเมตรอีกด้วย
รายงานข่าวระบุว่า เป็นที่นาสังเกตว่าโครงการคอนโดมิเนียมของกลุ่ม แอล.พี.เอ็น. ทุกวันนี้มีร้านสะดวกซื้อแบรนด์ แฟมิลี่มาร์ท เปิดให้บริการเป็นพันธมิตรอยู่ก่อนแล้ว ในโครงการคอนโดมิเนียมรวมจำนวน 7 แห่ง เช่น ลุมพินีปาร์คปิ่นเกล้า 2 โครงการ, ลุมพินีวิลล์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, โครงการที่รามอินทรา, หลักสี่, อ่อนนุช เป็นต้น ซึ่งก็เปิดโอกาสให้ทางบริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านแฟมิลี่มาร์ทสามารถต่อสัญญาเช่าพื้นที่ได้เมื่อครบสัญญา 3 ปีต่อครั้ง
นายปิยะวัฒน์กล่าวต่อว่า ในส่วนของพันธมิตรปั๊มน้ำมันอย่างปั๊มน้ำมัน ปตท.นั้น บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาต่อไปอีก 10 ปีเรียบร้อยเมื่อเดือนมีนาคมนี้เอง ซึ่งสัญญาเก่าครั้งแรกจะหมดอายุสัญญาในปี 2556 ทั้งนี้ การต่อสัญญาใหม่คาดว่าจะช่วยผลักดันให้เซเว่นฯ มีร้านในปั๊ม ปตท.เพิ่มอีก 400 กว่าสาขา จากปัจจุบันที่มีในปั๊ม ปตท.แล้ว 800 กว่าสาขา
“เราจะเข้าไปในส่วนของปั๊ม ปตท.ที่เปิดใหม่ในอนาคตทั้งหมด ขณะที่ร้านจิฟฟี่ที่เปิดให้บริการอยู่ในปั๊ม ปตท.นั้นจะเปิดให้บริการอยู่ในปั๊ม ปตท.เดิมที่ซื้อกิจการจากปั๊มน้ำมันเจ็ทเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสาขาใหม่ภายในปั๊ม ปตท.แต่อย่างใด” นายปิยะวัฒน์กล่าว