ซัสโก้รุกตลาดNon oil กล่อมนักลงทุนภูธรทำมินิมาร์ทในปั๊ม คาดว่ามีความชัดเจนในไตรมาส 4 นี้ โดยจะประเดิมที่ภาคใต้ก่อนหาพาร์ทเนอร์ในภาคอื่นๆด้วย หลัง"ตั้งฮวดเส็ง"มีข้อจำกัดในการขยายสาขายในต่างจังหวัด ตั้งเป้ามินิมาร์ทปั๊มช่วยดันยอดขายน้ำมันโตขึ้น 5-10%
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน)(SUSCO) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้เจรจากับนักลงทุนท้องถิ่นเพื่อดึงเข้ามาทำร้านสะดวกซื้อ (มินิมาร์ท) ในปั๊มน้ำมันซัสโก้ โดยนักลงทุนดังกล่าวจะเป็นที่รู้จักในพื้นที่และมีความชำนาญ เบื้องต้นจะทำมินิมาร์ทในภาคใต้ก่อนจำนวน 2ปั๊มหลังมีความชัดเจนในไตรมาส 4 นี้
" ปั๊มน้ำมันซัสโก้เน้นธุรกิจน้ำมันและแอลพีจี หากมีโอกาสรุกธุรกิจNon Oil เข้ามาเสริมรายได้ก็จะพิจารณา เราเห็นว่าหากทำมินิมาร์ทก็จะดึงLocal Partnerเข้ามาทำ โดยมองว่าจะหาพาร์ทเนอร์ในแต่ละภาคที่มีความชำนาญด้านนี้เข้ามาทำร้านสะดวกซื้อในปั๊มซัสโก้ที่มีอยู่ ซึ่งเขาจะมีความได้เปรียบทั้งเรื่องเข้าใจลูกค้าในท้องถิ่นดีและอาจขายสินค้าได้ถูกกว่าแต่ก็มีข้อจำกัดในการขยายสาขาได้ โดยบริษัทฯจะให้สิทธิพาร์ทเนอร์ในการเลือกปั๊มทำมินิมาร์ท บริษัทฯจะได้ค่าเช่าที่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุน "
นายชัยฤทธิ์ กล่าวว่า การรุกตลาด Non Oil โดยหันมาทำมินิมาร์ทเพิ่มเติมนั้น เชื่อว่าจะช่วยผลักดันยอดขายน้ำมันในปั๊มเพิ่มสูงขึ้น5-10% จากปัจจุบันที่บริษัทฯได้ร่วมกับห้างสรรพสินค้าตั้งฮวดเส็ง ทำให้มิมิมาร์ทในซัสโก้จำนวน 2 แห่งในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งห้างฯตั้งฮวดเส็งมีข้อจำกัดในการเพิ่มสาขามินิมาร์ทในต่างจังหวัด ต่างจากบริษัทข้ามชาติอย่างเทสโก้โลตัสหรือบิ๊กซีที่จับมือกับผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันอื่นไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบัน บริษัทฯมีปั๊มน้ำมันประมาณ 144 ปั๊มและปีนี้จะเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 150 แห่งส่วนใหญ่กระจายอยู่ที่ภาคใต้และเหนือ
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวม 1.6 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต7-8%ตามเป้าหมายที่วางไว้แม้ว่าราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาจะมีความผันผวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาขาดทุนสต็อกน้ำมันดังนั้นกลยุทธ์ใปีนี้บริษัทจะเน้นการเพิ่มปริมาณการขายน้ำมันจากเป้าเดิม 400 กว่าล้านลิตรเป็น 500 ล้านลิตรแทนการเพิ่มเป้ารายได้หลังไตรมาส 1/2555 บริษัทฯมีรายได้โตขึ้น21%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมทั้งวางเป้าหมายในอีก 3ปีข้างหน้า บริษัทฯจะมีรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาทจากจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นและการรุกตลาดส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยยอมรับว่า 2-3ปีนี้ ยังไม่มีแผนทำปั๊มน้ำมันในประเทศเพื่่อนบ้าน เนื่องจากการลงทุนจำเป็นต้องศึกษาข้อกฎหมายอย่างชัดเจนไม่มีปัญหาในภายหลัง
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน)(SUSCO) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้เจรจากับนักลงทุนท้องถิ่นเพื่อดึงเข้ามาทำร้านสะดวกซื้อ (มินิมาร์ท) ในปั๊มน้ำมันซัสโก้ โดยนักลงทุนดังกล่าวจะเป็นที่รู้จักในพื้นที่และมีความชำนาญ เบื้องต้นจะทำมินิมาร์ทในภาคใต้ก่อนจำนวน 2ปั๊มหลังมีความชัดเจนในไตรมาส 4 นี้
" ปั๊มน้ำมันซัสโก้เน้นธุรกิจน้ำมันและแอลพีจี หากมีโอกาสรุกธุรกิจNon Oil เข้ามาเสริมรายได้ก็จะพิจารณา เราเห็นว่าหากทำมินิมาร์ทก็จะดึงLocal Partnerเข้ามาทำ โดยมองว่าจะหาพาร์ทเนอร์ในแต่ละภาคที่มีความชำนาญด้านนี้เข้ามาทำร้านสะดวกซื้อในปั๊มซัสโก้ที่มีอยู่ ซึ่งเขาจะมีความได้เปรียบทั้งเรื่องเข้าใจลูกค้าในท้องถิ่นดีและอาจขายสินค้าได้ถูกกว่าแต่ก็มีข้อจำกัดในการขยายสาขาได้ โดยบริษัทฯจะให้สิทธิพาร์ทเนอร์ในการเลือกปั๊มทำมินิมาร์ท บริษัทฯจะได้ค่าเช่าที่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุน "
นายชัยฤทธิ์ กล่าวว่า การรุกตลาด Non Oil โดยหันมาทำมินิมาร์ทเพิ่มเติมนั้น เชื่อว่าจะช่วยผลักดันยอดขายน้ำมันในปั๊มเพิ่มสูงขึ้น5-10% จากปัจจุบันที่บริษัทฯได้ร่วมกับห้างสรรพสินค้าตั้งฮวดเส็ง ทำให้มิมิมาร์ทในซัสโก้จำนวน 2 แห่งในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งห้างฯตั้งฮวดเส็งมีข้อจำกัดในการเพิ่มสาขามินิมาร์ทในต่างจังหวัด ต่างจากบริษัทข้ามชาติอย่างเทสโก้โลตัสหรือบิ๊กซีที่จับมือกับผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันอื่นไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบัน บริษัทฯมีปั๊มน้ำมันประมาณ 144 ปั๊มและปีนี้จะเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 150 แห่งส่วนใหญ่กระจายอยู่ที่ภาคใต้และเหนือ
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวม 1.6 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต7-8%ตามเป้าหมายที่วางไว้แม้ว่าราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาจะมีความผันผวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาขาดทุนสต็อกน้ำมันดังนั้นกลยุทธ์ใปีนี้บริษัทจะเน้นการเพิ่มปริมาณการขายน้ำมันจากเป้าเดิม 400 กว่าล้านลิตรเป็น 500 ล้านลิตรแทนการเพิ่มเป้ารายได้หลังไตรมาส 1/2555 บริษัทฯมีรายได้โตขึ้น21%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมทั้งวางเป้าหมายในอีก 3ปีข้างหน้า บริษัทฯจะมีรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาทจากจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นและการรุกตลาดส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยยอมรับว่า 2-3ปีนี้ ยังไม่มีแผนทำปั๊มน้ำมันในประเทศเพื่่อนบ้าน เนื่องจากการลงทุนจำเป็นต้องศึกษาข้อกฎหมายอย่างชัดเจนไม่มีปัญหาในภายหลัง