“บุญทรง” ผวาน้ำมันปาล์มขาดแคลน สั่งตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มทั้งระบบหลังผลผลิตลดลง และพบมีคนจงใจดันส่งออกมากผิดปกติเพื่อให้ในประเทศขาดแคลนแม้ราคาในประเทศสูงกว่าราคาส่งออกก็ตาม เล็งดัดหลังเก็บเซอร์ชาร์จต่อ พร้อมให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบทำปาล์มขวดขายเพิ่ม ขีดเส้นที่ราคาขวดละ 42 บาท
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และโรงกลั่นน้ำมันปาล์มที่มีอยู่ทั้งหมดว่ามีสต๊อกน้ำมันปาล์มเหลืออยู่ปริมาณเท่าไร หลังจากได้รับรายงานว่าสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบขณะนี้ลดต่ำลงมาก ต่ำกว่าระดับปกติที่ควรจะมีเซฟตี้สต๊อกประมาณ 2 แสนตัน โดยคาดว่าเดือน ส.ค.นี้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศอาจเข้าขั้นวิกฤตหรือลดลงเหลือแค่ 1.3 แสนตัน หากสถานการณ์ผลผลิตปาล์มในประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือลดลงมากกว่า 20% ต่อเดือน
ทั้งนี้ สต๊อกน้ำมันปาล์มที่ลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ผลผลิตลดน้อยลง แต่อีกส่วนหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดจากความพยายามที่จะส่งออกน้ำมันไปตลาดต่างประเทศเป็นจำนวนมากเพื่อทำให้ตลาดภายในประเทศเกิดความปั่นป่วน ซึ่งจากข้อมูลการส่งออกในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณมากถึง 4-5 หมื่นตัน ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศมีราคาสูงกว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศเพื่อนบ้าน โดยปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบไทยมีราคาสูงกว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซียถึง 5 บาท/กก. แต่เหตุใดถึงมีการส่งออกไปจำนวนมาก
“หลังจากตรวจสอบแล้ว หากพบว่ามีการส่งออกเพื่อจงใจทำให้ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศปั่นป่วน กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาต่ออายุการเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์ม (เซอร์ชาร์จ) ที่เรียกเก็บ 10% ซึ่งจะหมดลงในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อป้องกันปัญหาการส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทศสูงเกินไป” นายบุญทรงกล่าว
นายบุญทรงกล่าวว่า กระทรวงฯ จะพิจารณามาตรการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศ เข้ามาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนภายในประเทศ แต่ปริมาณที่จะนำเข้ายังไม่ระบุว่าจะมีปริมาณเท่าไร ต้องรอผลการตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์มจากกรมการค้าภายในก่อน รวมถึงให้ตรวจสอบปริมาณผลผลิตปาล์มปีนี้คาดเคลื่อนจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์มากน้อยแค่ไหน ส่วนการนำเข้าสามารถดำเนินการได้ทันทีเพราะยังเหลือโควตานำเข้าน้ำมันปาล์มดิบอีก 3 หมื่นตัน จากที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) อนุมัติให้นำเข้า 4 หมื่นตัน โดยนำเข้ามาแล้วเพียง 1 หมื่นตันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุขวดรอบใหม่ยังคงกำหนดให้จำหน่ายตามราคาเพดานน้ำมันปาล์มขวดละ 42 บาท โดยจะไม่มีการทบทวนเพดานราคาตามที่ภาคเอกชนเสนอ แม้ว่าขณะนี้ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบจะขยับสูงขึ้นกว่าราคาเพดานที่กระทรวงฯ กำหนด เพราะมองว่าราคาน้ำมันปาล์มมีความผันผวนมาก หากราคาเริ่มนิ่งและสะท้อนว่าต้นทุนน้ำมันปาล์มมีราคาสูงเกินเพดานควบคุมมากจนกระทบต่อต้นทุนของผู้ผลิต ก็อาจจะทบทวนเพดานราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้ ซึ่งจะเป็นแนวทางสุดท้ายที่ดำเนินการ
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และโรงกลั่นน้ำมันปาล์มที่มีอยู่ทั้งหมดว่ามีสต๊อกน้ำมันปาล์มเหลืออยู่ปริมาณเท่าไร หลังจากได้รับรายงานว่าสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบขณะนี้ลดต่ำลงมาก ต่ำกว่าระดับปกติที่ควรจะมีเซฟตี้สต๊อกประมาณ 2 แสนตัน โดยคาดว่าเดือน ส.ค.นี้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศอาจเข้าขั้นวิกฤตหรือลดลงเหลือแค่ 1.3 แสนตัน หากสถานการณ์ผลผลิตปาล์มในประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือลดลงมากกว่า 20% ต่อเดือน
ทั้งนี้ สต๊อกน้ำมันปาล์มที่ลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ผลผลิตลดน้อยลง แต่อีกส่วนหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดจากความพยายามที่จะส่งออกน้ำมันไปตลาดต่างประเทศเป็นจำนวนมากเพื่อทำให้ตลาดภายในประเทศเกิดความปั่นป่วน ซึ่งจากข้อมูลการส่งออกในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณมากถึง 4-5 หมื่นตัน ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศมีราคาสูงกว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศเพื่อนบ้าน โดยปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบไทยมีราคาสูงกว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซียถึง 5 บาท/กก. แต่เหตุใดถึงมีการส่งออกไปจำนวนมาก
“หลังจากตรวจสอบแล้ว หากพบว่ามีการส่งออกเพื่อจงใจทำให้ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศปั่นป่วน กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาต่ออายุการเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์ม (เซอร์ชาร์จ) ที่เรียกเก็บ 10% ซึ่งจะหมดลงในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อป้องกันปัญหาการส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทศสูงเกินไป” นายบุญทรงกล่าว
นายบุญทรงกล่าวว่า กระทรวงฯ จะพิจารณามาตรการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศ เข้ามาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนภายในประเทศ แต่ปริมาณที่จะนำเข้ายังไม่ระบุว่าจะมีปริมาณเท่าไร ต้องรอผลการตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์มจากกรมการค้าภายในก่อน รวมถึงให้ตรวจสอบปริมาณผลผลิตปาล์มปีนี้คาดเคลื่อนจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์มากน้อยแค่ไหน ส่วนการนำเข้าสามารถดำเนินการได้ทันทีเพราะยังเหลือโควตานำเข้าน้ำมันปาล์มดิบอีก 3 หมื่นตัน จากที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) อนุมัติให้นำเข้า 4 หมื่นตัน โดยนำเข้ามาแล้วเพียง 1 หมื่นตันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุขวดรอบใหม่ยังคงกำหนดให้จำหน่ายตามราคาเพดานน้ำมันปาล์มขวดละ 42 บาท โดยจะไม่มีการทบทวนเพดานราคาตามที่ภาคเอกชนเสนอ แม้ว่าขณะนี้ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบจะขยับสูงขึ้นกว่าราคาเพดานที่กระทรวงฯ กำหนด เพราะมองว่าราคาน้ำมันปาล์มมีความผันผวนมาก หากราคาเริ่มนิ่งและสะท้อนว่าต้นทุนน้ำมันปาล์มมีราคาสูงเกินเพดานควบคุมมากจนกระทบต่อต้นทุนของผู้ผลิต ก็อาจจะทบทวนเพดานราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้ ซึ่งจะเป็นแนวทางสุดท้ายที่ดำเนินการ