ตาก-อธิบดีพลังงานลุยชายแดนแม่สอด หลังมีรายงานขบวนการลักลอบส่งก๊าซเข้าพม่าต่อท่อส่งก๊าซผ่านท่าข้ามริมน้ำเมย-ลอบบรรจุก๊าซลงถังขาวส่งออก แต่ไม่มีหลักฐานเหลือให้เห็น เจอแต่ท่อส่งออกน้ำมันข้ามน้ำเมยเข้าพม่า
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตากวันนี้ (10 ก.ค.) ว่า นายวีระพล จีรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณท่าเรือขนส่งสินค้าริมแม่น้ำเมย ชายแดนไทย-พม่า ณ ท่าข้ามที่ 21 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากได้รับรายงานว่ามีการต่อท่อเพื่อส่งก๊าซข้ามไปยังประเทศพม่าฝั่งตรงข้าม โดยมีนายสนิท เขียวมูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าสายลวด ในฐานะเจ้าของท่าเรือนำคณะเข้าตรวจบริเวณท่าเรือทั้งหมด ปรากฏว่าไม่พบท่อส่งก๊าซแต่อย่างใด
แต่คณะอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานได้ตรวจพบมีการต่อสายยางขนาดใหญ่จากฝั่งท่าเรือไทยไปยังแท็งก์บรรจุน้ำมันฝั่งพม่า รวมทั้งยังมีถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรหลายร้อยใบนำมาวางเรียงรายอยู่เพื่อรอบรรจุน้ำมันจากแท็งก์ ซึ่งมองเห็นได้ชัดจากฝั่งไทย
นายวีระพลกล่าวว่า มาตรวจเพราะมีรายงานว่าฝั่งไทยโดยเฉพาะท่าเรือที่ 21 มีการต่อท่อส่งก๊าซข้ามไปขายยังฝั่งพม่า แต่ไม่พบซึ่งอาจจะเป็นการเข้าใจผิดก็ได้ที่เห็นสายยางขนาดใหญ่จำนวนมากที่ทอดข้ามลำน้ำเมยตลอดแนวแม่น้ำเพื่อขนถ่ายน้ำมัน
หลังจากที่เข้ามาตรวจสอบก็รู้สึกแปลกใจว่ามีการส่งน้ำมันข้ามไปประเทศพม่าจำนวนมากโดยใช้สายยางถ่ายข้าม เมื่อสอบถามทางนายด่านศุลกากรฯ จึงทราบว่ามีการส่งออกน้ำมันดีเซลและเบนซินอย่างถูกต้องถึงเดือนละกว่า 3 ล้านลิตร
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้ไปตรวจโรงบรรจุก๊าซเพื่อตรวจสอบจากรายงานว่ามีการบรรจุก๊าซลงถังขาวเพื่อส่งขายประเทศพม่าเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ไม่พบเพราะอาจจะทราบว่าเจ้าหน้าที่จะมาตรวจเลยหลบไปก่อนก็เป็นได้
ขณะนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร รวมทั้งศุลกากร ให้มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ฐานลักลอบนำสินค้า ซึ่งของต้องจำกัดออกนอกราชอาณาจักร ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร ปัจจุบันก๊าซหุงต้มภายในประเทศราคาต้นทุนประมาณ กก.ละ 37 บาท แต่รัฐบาลต้องอุดหนุนเงิน กก.ละ 19 บาท เพื่อให้ราคาขายในประเทศอยู่ที่ กก.ละ 18 บาท เป็นการสร้างความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจอย่างมาก