ไฮเนเก้นชี้ปรับภาษีเบียร์ขึ้นกระทบรากหญ้าดื่มเบียร์อีโคโนมีแห่ซดเหล้าขาว สุราผสม ระบุหากราคาเบียร์เพิ่ม 1-2 บาทคอฟองเบียร์ไม่สะเทือน มั่นใจตลาดเบียร์ 8 หมื่นล้านบาทไม่หดตัว ชงกรมสรรพสามิตปรับระบบจัดเก็บภาษีตามปริมาณดีกรีเป็นมาตรฐานสากล โละระบบเก่าทิ้ง แนะระบบการค้าไทยต้องพร้อมรับการค้าเสรี
นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริว ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ และเชียร์ เปิดเผยถึงกรณีที่กรมสรรพสามิตกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาขยายเพดานการจัดเก็บภาษีเบียร์ว่า ในแต่ละครั้งที่มีการปรับภาษีเบียร์เพิ่มขึ้นก็จะมีผลทำให้พฤติกรรมการดื่มเบียร์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป
โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคเบียร์ระดับล่างหรือเซกเมนต์อีโคโนมีมีโอกาสที่จะหันไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาถูก อย่างเหล้าขาว หรือสุราผสม เนื่องจากลูกค้ากลุ่มเบียร์ระดับล่าง ปัจจัยการตัดสินใจซื้อมาจากราคาเป็นหลัก ขณะที่เบียร์ระดับพรีเมียมอย่างของไฮเนเก้น การปรับราคาเพิ่มขึ้นไม่กระทบมากนัก เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังการซื้อ
อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับภาษีเบียร์เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ราคาเบียร์เพิ่มขึ้น 1-2 บาท เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยการตัดสินใจซื้อมากนัก แต่ในช่วงแรกจะกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าตลาดเบียร์โดยรวม 8 หมื่นล้านบาทจะไม่หดตัว โดยในแง่ของมูลค่าอาจจะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเชิงปริมาณเชื่อว่าจะไม่ลดลง
สำหรับสภาพตลาดเบียร์ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ไม่ได้มีการเติบโตมากนัก โดยพบว่าตลาดโตในช่วงเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น หลังจากนั้นตลาดมีสภาพซบเซามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเชื่อว่าจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา
นายปริญกล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีระบบการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตว่า ควรหันมาจัดเก็บภาษีเบียร์ตามปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์มากกว่าจะคิดในเชิงมูลค่า ซึ่งกรมสรรพสามิตได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเบียร์จาก 55% เป็น 58% ทั้งนี้เพราะเป็นระบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นมาตรฐานของทั่วโลก
ซึ่งจะทำให้สินค้าสามารถแข่งขันบนโลกการค้าเสรีได้สอดรับกับการเปิดเขตเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน หรือปี 2558 ขณะนี้มีเบียร์หลายแบรนด์เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เช่น เบียร์คาร์ลสเบอร์ก เบียร์ลาว หลังจากที่อาฟต้ามีผลทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าภาษีเหลือ 0% นับตั้งแต่ปี 2553 หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานื้ และคาดว่าหลังจากเปิดเออีซีจะมีเบียร์เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการปรับโครงสร้างภาษีสุราผสมปรับขึ้นอัตราภาษีจาก 280 บาท/ลิตร แอลกอฮอล์บริสุทธิ์เป็น 300 บาท/ลิตร แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ทำให้เบลนด์ 285 ปรับเพิ่มขึ้นประมาณขวดละ 14 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้นจากราคาเดิม 193 บาท เป็นประมาณ 207-210 บาทต่อขวด ส่วนรีเจนซี่คาดว่าราคาจะปรับเพิ่มขึ้นราว 2% เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การปรับภาษีเบียร์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ค่ายเบียร์สิงห์และไฮเนเก้นเสนอให้กรมสรรพสามิตเปลี่ยนระบบการจัดเก็บภาษีเบียร์จากในเชิงมูลค่ามาเป็นคิดตามปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์มาโดยตลอด แต่การเสนอดังกล่าวไม่ได้รับการพิจารณา
ด้านนายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าปลีก-ส่งไทย เปิดเผยว่า การปรับภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ส่งผลให้ราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรับขึ้นโดยทันที ดังนั้น มีความเป็นไปได้ยากมากที่เอเยนต์จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะกักตุนสินค้าไว้เนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า โดยก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนมีกระแสข่าวว่ากรมสรรพสามิตจะปรับภาษีเพิ่มขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้เอเยนต์จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กักตุนสินค้ามาระยะหนึ่ง แต่กรมสรรพสามิตก็ไม่ได้ปรับภาษีขึ้น กระทั่งล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้ประกาศปรับภาษีเพิ่มขึ้น