xs
xsm
sm
md
lg

“ตี๋” ทิ้ง “แม็ทชิ่ง” สุดทานช่อง 7 ผุดบริษัทลุยฟูด-อสังหาฯ-นิวมีเดีย-บันเทิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - “ตี๋ แม็ทชิ่ง” ถอดใจลาออกจากการเป็นบอร์ด “แม็ทชิ่ง สตูดิโอ” อ้างมองต่างมุม ผุดบริษัทใหม่ในชื่อ “ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” ลุย 4 ธุรกิจ มั่นใจปีแรกทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
 
นายสมชาย ชีวสุทธานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ตี๋ เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด หรือ “ตี๋ แม็ทชิ่ง” เปิดเผยว่า ตนได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือน ก.ค. แต่ยังคงหุ้นอยู่ราว 10% เช่นเดิม ส่วนจะทำอย่างไรกับจำนวนหุ้นดังกล่าวนั้นตอนนี้ยังไม่ได้คิด

การลาออกครั้งนี้ไม่ได้ขัดแย้งหรือมีปัญหากับใคร แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่าไลฟ์สไตล์การทำงานของตนกับทางผู้ถือหุ้นใหญ่ คือช่อง 7 ในนามบริษัท บีบีทีวี โปรดักชั่นส์ จำกัด ที่ปัจจุบันถือหุ้นหลักกว่า 60-65% หลังจากในปี 2552 ที่เริ่มต้นเข้ามาถือหุ้นที่ 49% มีสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน ทำให้หลายๆ งานที่ผ่านมาค่อนข้างนิ่ง หรือสูญเสียโอกาสไป 

“วิธีการทำงานของทางช่อง 7 คือค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้สูญเสียโอกาส แต่ผมทำงานตัดสินใจที่รวดเร็วและเห็นผลทันที กล้าได้กล้าเสีย จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งต่างๆ ในแม็ทชิ่ง สตูดิโอ”

บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) ช่อง 7 ยังถือหุ้นหลัก 60-65% รองลงมาคือกลุ่มตี๋ แม็ทชิ่ง 20% กว่า (ในจำนวนดังกล่าวเป็นหุ้นส่วนตัวของตี๋ แม็ทชิ่ง 10% กว่า ที่เหลือเป็นของผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอีกคน” และหุ้นที่เหลืออีก 10% กว่าๆ คือหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันนายฐนิสสพงษ์ ศศินมานพ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแม็ทชิ่งมาด้วยกันเป็นกรรมการผู้จัดการแทน ซึ่งปีนี้แม็ทชิ่ง สตูดิโอ ครบ 20 ปี และเคยมีรายได้สูงสุดอยู่ในระดับ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป

ปัจจุบันแม็ทชิ่ง สตูดิโอยังคงดำเนินธุรกิจใน 5 กลุ่ม คือ 1. โปรดักชัน ผลิตภาพยนตร์โฆษณา 2. ผลิตรายการและละคร รวม 4 รายการ คือ ปลดหนี้, คบเด็กสร้างบ้าน, ละครตลบหลังตลาด และรายการพิเศษในวันหยุดนักขัตฤกษ์ 3. นิตยสาร ชีสแมกกาซีน 4. อีเวนต์ และ 5. ให้เช่าอุปกรณ์จัดงานอีเวนต์

ผุด “ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” ลุยงานสไตล์ตี๋

นายสมชายกล่าวต่อว่า ล่าสุดตนได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ร่วมกับเพื่อนๆ 3 ราย จดทะเบียนเมื่อเดือนที่แล้ว คือบริษัท ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เบื้องต้นวางแนวทางธุรกิจไว้ 4 กลุ่ม คือ 1. ฟูดแอนด์เบฟเวอเรจ 2. เอนเตอร์เทนเมนต์ 3. นิวมีเดีย และ 4. อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งขณะนี้เริ่มบางธุรกิจไปบ้างแล้ว ตั้งเป้าหมายปีแรกของการทำงานเต็มรูปแบบจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
 
“ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คือรูปแบบธุรกิจที่เกิดจากการสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ ในรูปแบบของตี๋ แม็ทชิ่ง คือความเป็นตัวเราอย่างที่ผ่านมา กับธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มที่วางเอาไว้ ในรูปแบบของการร่วมมือกับเพื่อนๆ ในวงการ เจาะกลุ่มเป้าหมายแบบนิชมาร์เกต มุ่งเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นหลัก”
 
ธุรกิจกลุ่มแรกที่ทำแล้ว 3 เดือน คือกลุ่มฟูดแอนด์เบฟเวอเรจ กับการซื้อแฟรนไชส์เครื่องดื่มอินดี้แบรนด์ “แฮปปี้เลมอน” จากประเทศฮ่องกงเข้ามาทำตลาดในไทยกับ 4 สาขา คือ เอเชียทีกริเวอร์ฟรอนต์, เมเจอร์ ปิ่นเกล้า, แฟชั่นไอส์แลนด์ และทียูโดมพลาซ่ารังสิต ทั้งแบบคีออสก์ และสแตนด์อะโลน ลงทุนสาขาละ 1-2 ล้านบาท คาด 2 ปีขยายครบ 10-15 สาขา ตั้งเป้ายอดขายที่ 500 แก้วต่อวัน หรือใน 1 ปีแรกจะมีรายได้ที่ 45 ล้านบาท ราคาเครื่องดื่มเฉลี่ย 60 บาท เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นพรีเมียมแมส ทำตลาดแบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก และอีเวนต์ออนกราวนด์เป็นหลัก ในอนาคตเตรียมขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์และรองรับเออีซีในกลุ่มประเทศอินโดจีนต่อไป

ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เตรียมไว้ 2 โครงการ คือ คอมมูนิตีมอลล์ย่านไพรม์ไทม์ในกรุงเทพฯ และคอนโดมิเนียมแบบเฉพาะกลุ่มที่มีจำนวนห้องเพียง 10 กว่าห้อง ลงทุนแบบร่วมทุนกับเจ้าของที่ดิน

สำหรับเอนเตอร์เทนเมนต์ รวมถึงการทำงานที่เคยทำทั้งโฆษณา คอนเสิร์ต อีเวนต์ จะเป็นลำดับต่อไป ส่วนนิวมีเดียยังเตรียมการอยู่ โดยภาพรวมลงทุนไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท แต่หลังจากดำเนินการทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจแล้ว มองว่ากลุ่มนิวมีเดียคือตัวขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างรายได้หลัก รองลงมาคือฟูดแอนด์เบฟเวอเรจ อสังหาริมทรัพย์ และเอนเตอร์เทนเมนต์ โดยในปีแรกหรือภายในสิ้นปี 2556 บริษัทน่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
 
กำลังโหลดความคิดเห็น