xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวร้าย ไทยส่งออกลดฮวบเป็นประวัติการณ์-เสียแชมป์ให้อินเดีย!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

รับรองว่าข่าวนี้ไม่สนุกเหมือนกับข่าวแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเสนอกฎหมายล้างผิด หรือแม้แต่ข่าวที่บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เดินทางไปพบ ทักษิณ ชินวัตร ถึงฮ่องกง เพื่อไปอวยพรวันเกิด และปรึกษาหารือถึงการแต่งตั้งนายตำรวจระดับสูงชุดใหม่ รวมทั้งกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ คุยโม้ว่ามีวิธีพาทักษิณกลับบ้านอีกแล้ว แต่ข่าวที่ว่านี่คือข่าวร้ายในท่ามกลางโครงการประชานิยมที่กำลังเดินหน้า นั่นคือเรื่องที่ประเทศไทยมียอดการส่งออก 6 เดือนแรกต่ำเป็นประวัติการณ์

ข่าวร้ายเด้งที่สองตามในแบบปลีกย่อยซ้อนเข้ามา นั่นคือตัวเลขการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้ลดลงกว่า 45 เปอร์เซ็นต์ และเสียแชมป์ผู้ส่งออกให้กับ อินเดีย และเวียดนาม ตามลำดับ

ก่อนจะไปว่ากันในรายละเอียดก็ต้องอธิบายแบ็กกราวนด์ของประเทศไทยพอเป็นสังเขปดังนี้ คือ แต่ไหนแต่ไรมาแล้วประเทศเราเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกหาเงินเข้าประเทศเป็นหลัก ก่อนหน้านี้ก็พึ่งพาตลาดสหรัฐอเมริกา แล้วก็ยุโรป จากนั้นก็ค่อยๆ พัฒนามาเป็นการเพิ่มตลาดใหม่อย่างเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วยกัน แล้วจนมาถึงตลาดใหญ่อย่างจีน และอินเดีย นั่นแหละ แต่ถึงอย่างไร ประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาก็ยังถือว่าเป็นตลาดหลักอยู่ดี แต่มาในระยะหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจที่เรียกชื่อว่า “แฮมเบอร์เกอร์” ในสหรัฐฯ ต่อเนื่องมาจนถึงวิกฤตยูโรโซนทำให้เราขายสินค้าไม่ได้ นักท่องเที่ยวแถบนั้นก็เข้ามาบ้านเราน้อย เพราะไม่มีเงินนั่นแหละ มันก็พลอยส่งผลกระทบมาถึงเราอย่างช่วยไม่ได้

ที่ผ่านมาทั้งนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจต่างฟันธงตรงกันว่าวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปจะถดถอยไปแบบนี้อย่างน้อย 2-3 ปี และจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก และล่าสุดมีรายงานว่าประเทศจีนที่เราและหลายประเทศต้องการพึ่งพาก็เริ่มเกิดภาวะถดถอยบ้างแล้ว นั่นคือมีการประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลง

วกกลับมาที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม กระทรวงพาณิชย์โดย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ภูมิ สาระผล ได้ยอมรับว่าการส่งออกในรอบ 6 เดือนแรกลดลง และยังน้อยกว่านำเข้ามหาศาล ทำให้ยอดการขาดดุลมากเป็นประวัติการณ์ที่ 10,344 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอ้างว่าเป็นการนำเข้าพวกสินค้าทุนและเชื้อเพลิงเนื่องจากมั่นใจในเรื่องการลงทุนและฟื้นฟูหลังน้ำท่วม อย่างไรก็ดียังมั่นใจว่าตลอดทั้งปีการส่งออกจะโตที่ร้อยละ 15 ตามเป้าหมาย

นั่นเป็นภาพรวมการส่งออกทั้งหมด!!

แต่ข่าวร้ายที่แยกย่อยมาเป็นรายสินค้าหลัก ที่ประกาศโดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยวันเดียวกัน แบบไม่ไว้หน้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาไทยได้สูญเสียแชมป์ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกให้กับอินเดียและเวียดนามไปแล้ว โดยเราหล่นลงมาเป็นอันดับ 3 เพราะราคาข้าวของไทยสูงที่สุดขายสู้เขาไม่ได้ ที่น่าจับตาก็คืออินเดียจากเดิมเคยเป็นประเทศที่ซื้อข้าวไทย บัดนี้กลายเป็นคู่แข่งและแซงไทยไปแล้ว

ขณะที่เวียดนามก็ทำนองเดียวกัน แม้ว่าจะอ้างว่าคุณภาพข้าวต่างกัน แต่เวลานี้ข้าวเวียดนามก็มีคุณภาพไม่ได้แตกต่างจากไทยนัก และที่สำคัญราคาถูกกว่าข้าวไทยมาก ซึ่งสรุปโดยรวมก็คือมีปัญหามาจากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลที่ล้มเหลวทำให้ต้นทุนสูงขึ้นขายสู้คู่แข่งไม่ได้

สังเกตหรือไม่ว่าเวลานี้สินค้าเกษตรของไทยทุกตัวมีราคาตกต่ำหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าวที่บอกว่าราคาจำนำอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทนั้น เอาเข้าจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะจะต้องมีการหักค่าความชื้น ความล่าช้าในการจ่ายเงิน การทุจริต ชาวนาได้ประโยชน์ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ที่สำคัญยังมีข่าวร้ายเพิ่มเติมเข้ามาว่าสถาบันการเงินของรัฐอย่างเช่นธนาคารสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เริ่มมีปัญหาขาดสภาพคล่องอาจมีเงินไม่พอรับจำนำข้าวทุกเมล็ดตามนโยบายของรัฐบาล

นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกษตรตัวอื่น เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง หอม กระเทียม ลำใยที่เพิ่งประท้วงกันไปที่เชียงรายเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ล่าสุดมีการเรียกร้องให้แก้ปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำจากเดิมราคาลูกละ 20 กว่าบาทปัจจุบันลดลงเหลือไม่ถึง 3 บาท

นี่ยังไม่นับเสียงโวยวายจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการในเรื่องต้นทุนค่าแรงวันละ 300 บาท สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นข่าวร้ายทั้งสิ้น

นี่ยังไม่นับภาวะความเดือดร้อนที่เป็นอยู่ในเรื่องข้างของแพง แบบ “แพงทั้งแผ่นดิน” ราคาสินค้าข้าวราดแกงที่ปรับราคาไปแล้วไม่มีทางลดลงมาเท่าเดิมแน่นอน และนี่คือความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นขณะนี้ผลกระทบจากวิกฤตในประเทศยุโรปยังลามมาไม่ถึงไทยนัก แต่ก็เห็นรำไรอยู่ข้างหน้าแล้ว

สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ปัญหาจากโครงการประชานิยมที่มุ่งเน้นการหาเสียง-หาคะแนนนิยมในทางการเมืองหน้าใหญ่ใช้จ่ายงบประมาณแบบทุ่มลงไปมีแต่รายจ่ายไม่มีรายได้ เพื่อแลกกับการสนับสนุนให้ตัวเองได้อยู่ในอำนาจ มอมเมาสร้างความนิยมเพิ่มแรงหนุนให้ ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับประเทศแบบไม่มีความผิด และได้เงินที่ถูกยึดไปกลับคืนมาเท่านั้น

ทุกวันนี้หากไม่หลอกตัวเองต้องบอกว่าคนไทยมีความลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ และจากข่าวร้ายเรื่องการส่งออกที่ลดต่ำเป็นประวัติการณ์ การขาดดุลการค้ามหาศาลดังกล่าวทำให้น่าเป็นห่วงจนไม่กล้าหลับตาคิดว่านี่ขนาดยังไม่เจอผลกระทบกับวิกฤตภายนอกจังๆ ยังขนาดนี้ แล้วปีหน้าที่วิกฤตลุกลามไปทั่วโลก ประเทศไทยภายใต้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่แต่งตัวสวยงาม จะนำพาบ้านเมืองไปรอดหรือไม่

น่าเป็นห่วงนัก!!

กำลังโหลดความคิดเห็น