กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ออกโรงเตือนอย่าหลงเชื่อแก๊งตุ๋น โครงการธนาคารไบโอดีเซล และสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวพระราชดำริ ด้านสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์เร่งรวบรวมหลักฐาน แจ้งจับ ขณะที่นายอำเภอยางตลาดพร้อมแจ้งความข้อหาหนัก “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ”
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางชั้น 4 จ.กาฬสินธุ์ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ แสนหิรัญย์ นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และนายสุพจน์ รัตนวิเชียร สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงข่าว ชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชนให้ได้รับรู้และเข้าใจ ในกรณีมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างเป็นกลุ่มโครงการธนาคารหมู่บ้านไบโอดีเซล และสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวพระราชดำริ
โดยอ้างว่าผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์ โดยจะมีการตั้งแกนนำหมู่บ้านละ 1 คน ซึ่งผู้ทำหน้าที่เป็นประธานจะได้ค่าตอบแทนเดือนละ 20,000-25,000 บาท ส่วนกรรมการที่เหลืออีก 4 คนจะได้ค่าตอบแทนเดือนละ 10,000-15,000 บาทต่อคน ส่วนประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกจะสามารถกู้เงินไม่มีดอกเบี้ย มีที่ดินทำกินคนละ 15 ไร่ จะได้รับการผ่อนชำระและปลดหนี้ให้ทุกคน
นายสุพจน์ รัตนวิเชียร สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้แจ้งให้สำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “ธนาคารหมู่บ้านไบโอดีเซลและสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวพระราชดำริ” เนื่องจากเป็นการแอบอ้างใช้ชื่อสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวพระราชดำริ โดยไม่ได้จดทะเบียนตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 และเป็นการแอบอ้างหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ
ทั้งนี้ อ้างว่าให้แกนนำแต่ละหมู่บ้านเป็นตัวแทน 5 คน จะจ้างผู้ที่เป็นประธานเดือนละ 20,000-25,000 บาท กรรมการที่เหลืออีก 4 คนจะได้รับเงินเดือนคนละ 10,000-15,000 บาท จากนั้นให้ร่วมกันจัดตั้งสาขาขึ้นมาในหมู่บ้าน และให้ขึ้นป้ายชื่อโครงการฯ พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ราคาป้ายละ 7,000 บาท
โดยให้แกนนำออกค่าใช้จ่ายไปก่อน พร้อมกับให้เปิดรับสมัครสมาชิก และอ้างว่าผู้ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกจะได้รับประโยชน์ต่างๆ เช่น สามารถกู้เงินได้โดยไม่มีดอกเบี้ย มีที่ดินทำกินคนละ 15 ไร่ จะได้รับการผ่อนชำระและปลดหนี้ให้ทุกคน
นายสุพจน์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีประชาชนหลงเชื่อจำนวนมาก และกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 เป็นเพียงการแอบอ้างเท่านั้น สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจ 5 แห่ง ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย และ อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ฐานความผิด พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารต่างๆ เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ภายใน 30 วัน หรือไม่เกินวันที่ 14 กันยายนนี้ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่เร่งปลดป้ายที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวนำมาติดตั้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ ออกให้หมดทุกแห่ง
ด้านนายสมศักดิ์ แสนหิรัญย์ นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนใน อ.ยางตลาดหลงเชื่อเข้าร่วมสมัครสมาชิกแล้วกว่า 600 คน ทางอำเภอจึงทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เพื่อสอบถามว่าโครงการธนาคารหมู่บ้านไบโอดีเซลและสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวพระราชดำรินั้นมีจริงหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบเป็นหนังสือยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุน และไม่มีจริง
นอกจากนี้ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาก็ได้ตอบกลับมาว่าไม่ได้เป็นโครงการ พระราชดำริเช่นกัน ดังนั้นจึงถือได้ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้แอบอ้างโครงการพระราชดำริขึ้นมาเอง ทั้งนี้ หากได้รับการประสานจากหน่วยงานดังกล่าวทางอำเภอยางตลาดจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มที่แอบอ้างในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อไป
ขณะที่นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังทุกอำเภอ ตลอดจนผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าอย่าได้หลงเชื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่มาแอบอ้าง เพราะจากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย และเป็นเพียงการแอบอ้างโครงการพระราชดำริเท่านั้น พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด