ตัวแทนธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ ร้องกองปราบฯ แจ้งจับแก๊งแอบอ้างชื่อ “ธนาคารหมู่บ้านไบโอดีเซลและสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวพระราชดำริ” พร้อมกับใช้ตราสัญลักษณ์ฯ เรียกเก็บเงินจากการจัดทำป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ที่สูงเกินจริง
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.ท.เจตนิพัทธ์ สิริอมราภรณ์ อายุ 43 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายนิติการ ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ ตั้งอยู่เลขที่ 72/326 ซอยบึงขวาง 1/1 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. รับมอบจากประธานธนาคารดังกล่าว พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 20 คน เข้าพบ พ.ต.ท.ก้องภพ มาสืบชาติ พนักงานสอบสวน (สบ 2) กก.3 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างชื่อธนาคารหมู่บ้านฯ หลอกลวงชาวบ้านให้เข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกธนาคารดังกล่าว โดยนำแผ่นซีดีบันทึกภาพและเอกสารที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.ท.เจตนิพัทธ์กล่าวว่า ธนาคารหมู่บ้านฯ จัดตั้งขึ้นโดยมีเจตนาที่จะช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนตามชนบท ต่อมาจึงได้รับอนุญาตจากสำนักพระราชวังให้ใช้ตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อปี 2539 และดำเนินการเพื่อสนองแนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาความยากจนและหนี้สินของเกษตรกรเรื่อยมา กระทั่งเมื่อช่วงต้นปี 2555 มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างชื่อธนาคารหมู่บ้านฯ แต่เพิ่มเติมว่าเป็น “ธนาคารหมู่บ้านไบโอดีเซลและสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวพระราชดำริ” พร้อมกับใช้ตราสัญลักษณ์ฯ ออกประกาศเชิญชวนชาวบ้านใน 20 จังหวัด ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้สมัครเป็นสมาชิกธนาคารฯ โดยอ้างว่าจะสามารถกู้เงินได้ตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป โดยปราศจากดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 5 ปี
พ.ต.ท.เจตนิพัทธ์กล่าวต่อว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ยังอ้างกับชาวบ้านด้วยว่ามีเงินทุนสนับสนุนจากต่างประเทศเป็นจำนวน 3.6 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธนาคารแห่งนี้ แต่ชาวบ้านจะต้องมีตัวแทนขึ้นมา 5 คน ในหมู่สมาชิกจำนวน 500 คน โดยในส่วนของตัวแทนทั้ง 5 คนนี้จะได้รับเงินเดือนเป็นค่าตอบแทนเดือนละ 10,000-20,000 บาท หลังจากนั้นกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้บอกกับตัวแทนชาวบ้านที่จัดตั้งขึ้นสำเร็จแล้วว่าจะต้องจัดทำป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ทั้ง 2 พระองค์ไว้ที่บ้านของ 1 ใน 5 ตัวแทนกลุ่ม โดยมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำป้ายและค่าติดตั้งเป็นเงินระหว่าง 3,000-7,000 บาท
“กรณีการทำป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ ผมได้สอบถามจากร้านที่รับจัดทำป้ายดังกล่าวที่ จ.บึงกาฬ ทราบว่า การจัดทำมีราคาอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของป้าย จึงพบข้อพิรุธว่ามีการแอบอ้างเพื่อเรียกเก็บเงินในส่วนนี้จากชาวบ้านไป โดยพบว่าเกิดขึ้นในหลายจังหวัด มีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นจึงตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งธนาคารหมู่บ้านไบโอดีเซลและสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวพระราชดำริดังกล่าวก็พบว่าเป็นการแอบอ้าง รวมทั้งทางสำนักพระราชวังได้เคยมีหนังสือชี้แจงต่อสื่อมวลชนไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีธนาคารดังกล่าวอยู่ในโครงการของสำนักพระราชวังแต่อย่างใด จึงเข้าแจ้งความดำเนินดังกล่าว” พ.ต.ท.เจตนิพัทธ์กล่าว
พ.ต.ท.ก้องภพกล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้แจ้งความไว้ในเบื้องต้นแล้ว ก่อนจะรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อไป