นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการย้ายกระทรวงคมนาคม โดยมีนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดการปรับปรุงถนนราชดำเนินให้เป็นถนนแห่งการเรียนรู้ ถนนประวัติศาสตร์ ถนนท่องเที่ยว โดยต้องย้ายหน่วยงานราชการทั้งทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงต่างๆ ออกไปจากพื้นที่ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการพิจารณาหาพื้นที่ที่เหมาะสมก่อสร้างเป็นศูนย์ราชการแห่งที่ 2
ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการพิจารณาพื้นที่ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคมที่มีความเหมาะสม เช่น บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เนื่องจากมีพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริเวณสถานีแม่น้ำ และบางซื่อกว่า 2,000 ไร่ รวมถึงมักกะสันด้วย และพื้นที่ของโรงงานยาสูบ เป็นต้น ส่วนจะใช้พื้นที่ไหนจะต้องมีการศึกษารายละเอียดเพิ่มเต็ม โดยขณะนี้ยังเป็นแนวคิดและกรอบกว้างฟูมองในภาพรวมว่ามีพื้นที่ใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ได้เท่านั้น
“เรื่องนี้เป็นแนวคิดเก่าที่เคยพูดมาแล้วตั้งแต่ปี 2549 แต่ไม่ได้ดำเนินการต่อ แต่ขณะนี้เห็นว่าพื้นที่ของหน่วยงานราชการต่างๆ ตลอดแนวถนนราชดำเนินคับแคบมากจำเป็นที่จะต้องหาที่ใหม่ที่มีความสะดวกและกว้างขวางขึ้น ส่วนถนนราชดำเนินก็จะปรับปรุงได้” นายจารุพงศ์กล่าว
หอบแผนพัฒนาคลองเตยหารือ “นายกฯ ปู” เคาะลงทุน
ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) 2,357 ไร่นั้นนายจารุพงศ์กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจและให้นโยบายไว้ 3 ข้อ คือ1. ต้องมีที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมสำหรับรองรับคนในพื้นที่เพื่อไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากการพัฒนาพื้นที่ 2. จะต้องมีการให้บริการท่าเรือเหมือนเดิมและต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีช่วยทำงานมากขึ้น และ 3. ต้องมีพื้นที่สีเขียวสำหรับเป็นจุดพักผ่อนริมแม่น้ำสำหรับคนกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้ได้รายงานแผนแม่บทให้นายกฯ รับทราบแล้ว และจะมีการหารือร่วมกันเร็วๆ นี้เพื่อจะนัดหารือกับนายกฯ ซึ่งคาดว่าแนวทางจะมีความชัดเจนและนำแผนไปสู่การปฏิบัติได้ต่อไป
โดยท่าเรือคลองเตยกับชุมชนอยู่คู่กันมานานและมีปัญหายาเสพติดที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้น ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กทท.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตำรวจทำโครงการ “ท่าเรือสีขาว เพื่อแม่ของแผ่นดิน” เพื่อรณรงค์กระตุ้นการต่อต้านยาเสพติดซึ่งมีชุมชนแออัดในพื้นที่ 400 ไร่ รวม 26 ชุมชน มีประชาชนกว่า 60,000 คนหรือ12,000 ครัวเรือน ซึ่งการแก้ปัญหายาเสพติดต้องเริ่มจากครอบครัวต้องอบอุ่นไม่แตกแยก และใช้แนวปราบปรามผู้เสพไม่ใช่อาชญากร ส่วน กทท.จะต้องช่วยดูแลคนในพื้นที่ โดยใช้กีฬาเข้ามาช่วยและให้ความรู้และสนับสนุนทุนการศึกษา เป็นต้น รวมถึงการจัดทำที่อยู่ที่มีคุณภาพดีขึ้นด้วย
เรือตรี วิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า แผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือคลองเตยมีวัตถุประสงค์การใช้ประโยชน์พื้นที่ทุกตารางเมตรไว้แล้ว เหลือเพียงการพิจารณาการลงทุนให้เหมาะสมเท่านั้น ส่วนกรณีที่จะใช้เป็นศูนย์ราชการนั้นยังเป็นเพียงแนวคิดไม่ใช่นโยบาย เพราะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีก ซึ่งเห็นว่าท่าเรือเป็นประตูเศรษฐกิจในการนำเข้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ถ้าใช้พื้นที่เพื่อกิจกรรมอื่นจะทำให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนไม่สะดวก และยังช่วยในการขนส่งวัตถุดิบป้อนโรงงานด้วย หากไม่มีวัตถุดิบเข้ามาโรงงานก็จะได้รับผลกระทบแน่นอน โดยเห็นว่าพื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างศูนย์ราชการมากที่สุดคือ สถานีแม่น้ำ ของ ร.ฟ.ท.
