เพลิงไหม้รับย่ำอรุณที่ชุมชนบ้านครัวใต้ ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ดับเพลิงขนรถน้ำ 34 คันเข้าสกัดกั้นเปลวเพลิงที่กำลังลุกโหมอย่างรวดเร็วด้วยความทุลักทุเลเพราะเป็นชุมชนแออัด เพลิงไหม้กว่า 1 ชั่วโมง เผาผลาญบ้านเรือชาวบ้านวอดวายไป 20 หลังคาเรือน!
วันนี้ (1 ส.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ชุมชนบ้านครัวใต้ ถนนพระราม 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. จึงประสานรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.จำนวน 34 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัดมีบ้านเรือนปลูกติดกันหลายร้อยหลังคาเรือน พบกลุ่มควันและแสงเพลิงจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากบ้านต้นเพลิงซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 24 ภายในชุมชนบ้านครัวใต้ ก่อนลุกลามขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เวลานำหัวฉีดน้ำเข้าสกัดกั้นทั้งทางบกด้านถนนพระราม 1 จากถนนบรรทัดทอง และถนนพระรามที่ 6 และทางน้ำยังใช้เรือดับเพลิงอีก 2 ลำเพื่อทำการสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง และต้องใช้สายส่งน้ำที่มีความยาว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิงโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นเพลิงได้ลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนวอดไป 20 หลังคาเรือน
จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ต้นเพลิงมาจากบ้านเลขที่ 24 ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นทรงไทย จากนั้นได้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง ขณะเดียวกันก็มีลมกระโชกแรงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและขยายเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านต่างพากันขนของหนีไฟกันอย่างอลหม่าน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นลมหมดสติด้วย 1 ราย เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.พระมงกุฎเกล้า ทราบชื่อคือ น.ส.วราพร (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 17 ปี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนสาเหตุและความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน และติดตามตัวเจ้าของบ้านต้นเพลิงมาสอบปากคำต่อไป
ต่อมาเวลา 11.30 น.พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ปทุมวัน เปิดเผยความคืบหน้าว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าบ้านต้นเพลิงดังกล่าวเป็นบ้านไม้ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ซึ่งจะต้องรอเรียกทางเจ้าของบ้านมาสอบปากคำเสียก่อน รวมถึงสอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นชาวบ้านในชุมชนบ้านครัวใต้ที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 20 หลังคาเรือน โดยวันนี้ชาวบ้านติดลงทะเบียนแจ้งความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย จึงต้องรอหลังจากนี้ถึงจะเรียกมาสอบปากคำเป็นรายบุคคลเพื่อนำมารวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานว่าสาเหตุนั้นเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกันหรือไม่ โดยวันนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บวัตถุพยานรวบรวมและนำไปตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาอีกสักระยะจึงจะทราบทราบสาเหตุที่แน่ชัด