อินเด็กซ์บุกหนักอินสโตร์มีเดีย คว้าสิทธิ์ตัวแทนจำหน่ายเทคโนโลยีสื่อดิจิตอลจากเกาหลีสู่อาเซียน ทุ่มทุน 100 ล้านลุยไฮเอนด์มาร์เกต เจาะ 13 สาขาวิลล่ามาร์เก็ต พร้อมขายเทคโนโลยีสู่แบรนด์สินค้า
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีชีวิตที่สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น และใช้เวลานอกบ้านไม่ต่ำกว่า 13 ชม.ต่อวัน ส่งผลให้สื่อโฆษณาเอาต์ออฟโฮมมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยในปีนี้มองว่าจะเติบโตได้ถึง 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 9,357 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มอินสโตร์มีเดีย 715 ล้านบาท เติบโตมากสุด 48.34% สื่อโมบายล์มีเดียเติบโต 1.79% คิดเป็นมูลค่า 814 ล้านบาท และสื่อบิลบอร์ด 1,473 ล้านบาท เติบโต 4.32%
จากแนวโน้มสื่ออินสโตร์ที่มาแรงที่สุด ส่งผลให้บริษัทเล็งเห็นโอกาส ล่าสุดได้รุกธุรกิจนี้ด้วยในนามบริษัท บลูมีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ จึงได้พัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร จากเทคโนโลยีที่นำเข้าจากบริษัทในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งบริษัทได้สิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายเทคโนโลยีดังกล่าวในประเทศแถบอาเซียนทั้งหมด มองว่าใน 1 ปีแรกนี้จะมีรายได้จากการขายโฆษณากว่า 23,462,500 บาท เริ่มทำตลาดในไทยก่อน ตามด้วยเวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นลำดับต่อไป
นายบูรณาภรณ์ มุสิกสินธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู มีเดีย จำกัด กล่าวเสริมว่า ล่าสุดบริษัทได้พัฒนานวัตกรรมใหม่จากเทคโนโลยีดังกล่าวสู่การเป็นเครื่องมือสื่อสารทางการตลาดที่เรียกว่า ฮอลโลว์ ดิสเพลย์ (Hollow Display) เป็นจอภาพขนาดบาง โปร่งใส สามารถใช้งานได้ในพื้นที่จำกัด พร้อมนำเสนอข้อมูลรายละเอียดสินค้าได้ เหมาะสำหรับเจาะตลาดดิจิตอลมีเดียในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มไฮเอนด์ เช่น สินค้ากลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักต์ เครื่องดื่มต่างๆ ที่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ เครื่องสำอาง และกลุ่มสินค้าไฮเอนด์
เทคโนโลยีสำหรับการทำตลาดในประเทศไทยจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ 1. การขายตัวสื่อหรือขายโฆษณา จากการที่ได้เข้าไปดูแลอินสโตร์มีเดียให้วิลล่า มาร์เก็ต เบื้องต้นเตรียมนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปติดตั้งภายในวิลล่า มาร์เก็ต ภายในปีนี้ 3 สาขา คือ เจ อเวนิว, อารีย์ และนวมินทร์ และภายในปีหน้าจะติดตั้งครบทั้ง 13 สาขา คาดใช้งบลงทุนราว 100 ล้านบาท โดยแต่ละสาขาจะมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ในรูปแบบจอพลาสมาราว 40 จอ ฮอลโลว์ดิสเพลย์ในรูปแบบตู้แช่ 2 ตู้ รวมถึงไฮเอนด์ ดิสเพลย์ต่างๆ ซึ่งรายได้จะมาจากการทำโฆษณาให้สินค้าต่างๆ เชื่อว่าในปีนี้จะมีรายได้โฆษณาประมาณ 7 ล้านบาท
2. การขายฮาร์ดแวร์ โดยจะมีจอให้เลือกหลายขนาดตามที่เจ้าของสินค้าต้องการ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีการพูดคุยกับแบรนด์เครื่องดื่มไว้แล้วคือกลุ่มเบียร์สิงห์ คาดว่าในระยะอันใกล้จะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
“จากเดิมที่บลูมีเดียให้บริการเช่าเครื่องมือสื่อสารการตลาดในรูปแบบเทคโนโลยี หลังจากที่หันมารุกในสื่อฮอลโลว์มีเดียแล้ว ซึ่งจะเริ่มเห็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาสสามนี้เป็นต้นไป เชื่อว่าถึงสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้ราว 17 ล้านบาท มาจาก 1. การให้เช่าอุปกรณ์ 10 ล้านบาท 2. ขายโฆษณา 7 ล้านบาท ส่วนในปีหน้าสัดส่วนในกลุ่มที่สองนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นรายได้หลักต่อไป” นายบูรพาภรณ์กล่าว
