xs
xsm
sm
md
lg

ประเมินผู้โดยสารสุวรรณภูมิใหม่ เหตุแนวโน้มนักท่องเที่ยวพุ่ง หวั่นเกินขีดเฟส 2 ด้านทอท.จ่อคุย AOC ลดไฟล์ช่วงแน่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“คมนาคม”สั่งทบทวนการเติบโตผู้โดยสารสุวรรณภูมิและดอนเมืองใหม่ หลังททท.ระบุ ปี 58 นักท่องเที่ยวจะมี 28 ล้านคนและ 80 % เดินทางโดยเครื่องบิน หวั่นสุวรรณภูมิเฟส 2 เสร็จแต่รองรับไม่ได้ เหตุคาดการณ์ผู้โดยสารโตปีละ 5% อาจไม่ใช่ตัวเลขปัจจุบัน ด้านทอท.จ่อคุย AOC ลด Landing & Parking จูงใจลดเที่ยวบินหนาแน่น บพ.นัดถกสัปดาห์หน้าวางแผนระยะสั้นก่อนเฟส 2 เสร็จและระยะยาว

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 ได้มีการประชุมคณะกรรมการบูรณาการด้านการขนส่งทางอากาศ โดยมีผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการบินพลเรือน (บพ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ร่วมหารือถึงนโยบายนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ให้แก้ไขปัญหาความล่าช้าของเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากที่การปิดซ่อมรันเวย์ และการบริหารจัดการเที่ยวบินเพื่อลดความหนาแน่นในบางช่วงเวลา โดยนายศรศักดิ์ แสนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันที่18-19 กรกฎาคม 2555 พบว่าไม่มีเที่ยวบินล่าช้าเกินกว่า 30 นาทีแล้ว และหลังจากนี้การบริหารการขึ้นลงของเที่ยวบินจะดีขึ้นเนื่องจากการซ่อมรันเวย์จะแล้วเสร็จในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ยกเว้นมีปัญหาสภาพอากาศเท่านั้น

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดี บพ.เป็นประธานในการกำหนดแผนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารที่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยจะต้องหารือกับทอท., บวท.และ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เนื่องจากข้อมูลที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2558 พบว่าจะมีถึง 28 ล้านคน โดยประมาณร้อยละ 80 จะเดินทางโดยเครื่องบิน

“จะต้องมีการทบทวนอัตราการเติบโตของผู้โดยสารให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด โดยนำตัวเลขประมาณการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวของ ททท.มาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า เป้าหมายแผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2559 โดยรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปี ถูกต้องหรือไม่ จะต้องมีการปรับปรุงใหม่อย่างไร รวมถึงทบทวนแผนพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ตและท่าอากาศยานภูมิภาคในความรับผิดชอบของบพ. ใหม่ด้วย”นายศรศักดิ์กล่าว

โดยในวันที่ 26 กรกฎาคม อธิบดีบพ.จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือโดยนำข้อมูลมาทำแผนร่วมกัน หลักๆ จะต้องดูว่า ความจุของรันเวย์ อาคารผู้โดยสาร คิวตม. จะจัดการอย่างไร ทาง บวท. จะต้องเตรียมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์รองรับการบริหารเที่ยวบินอย่างไร จะได้กำหนดแผนลงทุนให้มีความสอดคล้องกัน

ส่วนการบริหารจัดการเที่ยวบินเพื่อลดความหนาแน่นของรันเวย์นั้น นายศรศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีเที่ยวบินหนาแน่นเกือบ 20 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นการจะให้สายการบินเปลี่ยนมาใช้บริการในช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินน้อยไม่หนาแน่น ระหว่าง 01.00-04.00 น.นั้น ทางทอท.จะต้องสร้างแรงจูงใจเช่น การลดค่าธรรมเนียมการขึ้นลงและค่าจอดอากาศยาน (Landing & Parking Free) เป็นต้น

ว่าที่เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ช่วง 02.00 -04.00 น. ประมาณ 3 ชั่วโมง มีเที่ยวบิน 10-16 เที่ยวบินเท่านั้น ในขณะที่ช่วงหนาแน่นมีถึง 54 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งการปรับลดค่า Landing และ Parking นั้นต้องพิจารณาในระยะยาว ทั้งช่วงฤดูท่องเที่ยว (Hight Season) และช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season) เพราะความหนาแน่นของเที่ยวบินต่างกัน ต้องพิจารณาสัดส่วนที่เหมาะสม และจะต้องหารือกับ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AOC) และสายการบินด้วย จากนั้นเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. เห็นชอบ

ด้านนายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดี บพ.กล่าวว่า เที่ยวบินประจำคงจะปรับตารางบินยาก ดังนั้นเป้าหมายมาตรการจูงใจของทอท.จะมุ่งไปที่เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) สายการบินต้นทุนต่ำรายใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเชิญชวนให้มาใช้ในช่วง  02.00-04.00 น. แล้ว แต่ไม่มีสายการบินใดสนใจเนื่องจากไม่สอดคล้องกับเวลาที่ออกจากต้นทาง แต่หากทอท.ปรับลดค่าบริการลงร้อยละ 95 ก็อาจจะสร้างแรงจูงใจได้

ซึ่งต้องยอมรับว่า สายการบินนิยมมาใช้สุวรรณภูมิ เนื่องจากมีความสะดวกในการต่อเครื่องและมีการบินไทยซึ่งสายการบินหลักของประเทศให้บริการอยู่ และแม้จะจูงใจให้เที่ยวบินเช่าเหมาลำมาใช้ที่ดอนเมืองแต่เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เท่ากัน ไม่มีดิวตี้ฟรี ซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว สุวรรณภูมิจึงยังมีเที่ยวบินมาก ดังนั้นในระยะสั้นก่อนปี 59 ซึ่งสุวรรณภูมิ เฟส 2 จะเสร็จ จะต้องมีแผนบริหารจัดการเพื่อแก้ไขความหนาแน่นของเที่ยวบิน,อาคารผู้โดยสาร,คิวตม. ส่วนระยะยาวจะต้องประมาณการณ์การเติบโตของผู้โดยสารใหม่ ทั้งที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิ

ทอท.คาดการณ์ผู้โดยสารเติบโตแบบคงที่ร้อยละ 5 ต่อปี เท่านั้น จึงไม่มั่นใจว่าเมื่อ เฟส 2 เสร็จผู้โดยสารจริงจะไม่เกินขีดความสามารถที่ 60 ล้านคนหรือไม่ ถ้าผู้โดยสารเกินขีดความสามารถจะทำอย่างไร ถ้าตอบไม่ได้ชัดเจน ท่านนายกฯ บอกว่าก็จะไม่ให้เงิน 6.2 หมื่นล้านบาทกับทอท.ในการก่อสร้างสุวรรณภูมิ เฟส 2”นายวรเดชกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น