ททท.เร่งทำแผนปฏิบัติการปี 56 อิงเป้าหมายรัฐ 2 ล้านล้าน ขยายฐานลูกค้าระดับกลาง-บน หนุนไทยให้เป็นควอลิตีเลเชอร์เดสติเนชัน
วานนี้ (9 ก.ค.) ในการประชุมแผนปฏิบัติการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2556 นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า แนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการของปีงบประมาณ 2556 เพื่อเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ได้ 2 ล้านล้านบาทในปี 2558 จึงมอบหมายให้ทุกสำนักงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศของ ททท. ทำงานเชิงรุก รักษาฐานตลาดเก่า เพิ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ และตลาดใหม่ๆ ตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้เติบโต 10% ต่อปี จากที่ผ่านมารายได้เติบโตเฉลี่ย 7-8% ต่อปี
โดยจะโปรโมตประเทศไทยเป็น ควอลิตีเลเชอร์เดสติเนชัน มีการสื่อให้เห็นว่าไทยมีสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวตลาดระดับบนและกลาง ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวเป้าหมาย
“ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย 45% เป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปใช้จ่ายต่อวันต่อคนเฉลี่ย 4,000 บาท และ 18% เป็นนักท่องเที่ยวตลาดบน ใช้จ่ายต่อวันต่อคนเฉลี่ยมากกว่า 6,000 บาท สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐ ส่วนอีกกว่า 30% เป็นนักท่องเที่ยวระดับกลาง ซึ่งในปี 2558 ททท.ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวตลาดบนเป็น 25%”
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการในช่วงที่ผ่านมา ต่างเห็นตรงกันกับเป้าหมายของ ททท.ที่จะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวตลาดบน เพราะยังมองเห็นโอกาสของการเติบโต ส่วนใหญ่เดินทางมาจากประเทศในแถบยุโรป ดังนั้น แม้จะเกิดวิกฤตทางการเงินในภูมิภาคนี้ ททท.ก็จะยังไม่ทิ้ง แต่จะเจาะตลาดในประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะตลาดนี้จะมีช่วงเวลาพำนักนาน และใช้จ่ายสูง ส่วนในเอเชีย ตลาดระดับบนจะมาจากญี่ปุ่น และเกาหลีเป็นหลัก
นายสุรพลกล่าวว่า ผลจากวิกฤตการเงินในประเทศกลุ่ม PIGS คือ โปแลนด์ อิตาลี กรีซ และสเปน ททท.ให้ความสำคัญและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะบริหารความเสี่ยง ด้วยการตั้งไว้ 2 สมมติฐาน กล่าวคือ กรณีวิกฤตไม่ลุกลามไปประเทศอื่น ททท.ก็จะรักษาฐานตลาดเหล่านี้เอาไว้ และเน้นเจาะกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะ (นิชมาร์เกต) มากขึ้น
ส่วนอีกกรณีคือ หากวิกฤตลุกลามไปประเทศอื่นก็จะย้ายงบประมาณและกิจกรรมไปยังตลาดอื่นที่สดใส มีศักยภาพเติบโต และคุ้มค่าต่อการลงทุนทันที ซึ่งการประชุมแผนครั้งนี้จะหารือและสรุปข้อมูลจัดทำแผนในวันที่ 13 ก.ค. 55 และแถลงแผนวันที่ 16 ก.ค.นี้
วานนี้ (9 ก.ค.) ในการประชุมแผนปฏิบัติการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2556 นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า แนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการของปีงบประมาณ 2556 เพื่อเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ได้ 2 ล้านล้านบาทในปี 2558 จึงมอบหมายให้ทุกสำนักงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศของ ททท. ทำงานเชิงรุก รักษาฐานตลาดเก่า เพิ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ และตลาดใหม่ๆ ตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้เติบโต 10% ต่อปี จากที่ผ่านมารายได้เติบโตเฉลี่ย 7-8% ต่อปี
โดยจะโปรโมตประเทศไทยเป็น ควอลิตีเลเชอร์เดสติเนชัน มีการสื่อให้เห็นว่าไทยมีสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวตลาดระดับบนและกลาง ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวเป้าหมาย
“ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย 45% เป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปใช้จ่ายต่อวันต่อคนเฉลี่ย 4,000 บาท และ 18% เป็นนักท่องเที่ยวตลาดบน ใช้จ่ายต่อวันต่อคนเฉลี่ยมากกว่า 6,000 บาท สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐ ส่วนอีกกว่า 30% เป็นนักท่องเที่ยวระดับกลาง ซึ่งในปี 2558 ททท.ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวตลาดบนเป็น 25%”
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการในช่วงที่ผ่านมา ต่างเห็นตรงกันกับเป้าหมายของ ททท.ที่จะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวตลาดบน เพราะยังมองเห็นโอกาสของการเติบโต ส่วนใหญ่เดินทางมาจากประเทศในแถบยุโรป ดังนั้น แม้จะเกิดวิกฤตทางการเงินในภูมิภาคนี้ ททท.ก็จะยังไม่ทิ้ง แต่จะเจาะตลาดในประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะตลาดนี้จะมีช่วงเวลาพำนักนาน และใช้จ่ายสูง ส่วนในเอเชีย ตลาดระดับบนจะมาจากญี่ปุ่น และเกาหลีเป็นหลัก
นายสุรพลกล่าวว่า ผลจากวิกฤตการเงินในประเทศกลุ่ม PIGS คือ โปแลนด์ อิตาลี กรีซ และสเปน ททท.ให้ความสำคัญและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะบริหารความเสี่ยง ด้วยการตั้งไว้ 2 สมมติฐาน กล่าวคือ กรณีวิกฤตไม่ลุกลามไปประเทศอื่น ททท.ก็จะรักษาฐานตลาดเหล่านี้เอาไว้ และเน้นเจาะกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะ (นิชมาร์เกต) มากขึ้น
ส่วนอีกกรณีคือ หากวิกฤตลุกลามไปประเทศอื่นก็จะย้ายงบประมาณและกิจกรรมไปยังตลาดอื่นที่สดใส มีศักยภาพเติบโต และคุ้มค่าต่อการลงทุนทันที ซึ่งการประชุมแผนครั้งนี้จะหารือและสรุปข้อมูลจัดทำแผนในวันที่ 13 ก.ค. 55 และแถลงแผนวันที่ 16 ก.ค.นี้