“บิ๊กซี” ยังห่วงปัจจัยลบน้ำท่วมและวิกฤตการเงินยุโรปเล่นงานรอบครึ่งปีหลัง เตรียมแผนสำรองรับน้ำท่วมไว้แล้ว ชี้ทางหากไม่มีปัจจัยลบภาพรวมรุ่งแน่ กำลังซื้อเริ่มดีดกลับ
นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังหวั่นปัจจัยลบที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั้งหมด โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำท่วมใหญ่ และปัญหาวิกฤตการเงินยุโรป
โดยปัญหาน้ำท่วมนั้น บริษทฯ ได้นำเอาเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วมาเป็นบทเรียนเพื่อวางแผนปรับตัวรับเหตุการณ์ ถ้าหากจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจริง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเรื่องการขนส่งและการสั่งสินค้า การกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ รวมทั้งการปรับเส้นทางการขนส่ง และการหาพื้นที่รองรับในการสร้างคลังสินค้าสำรอง หากเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างปกติ
ขณะที่เรื่องวิกฤตการเงินยุโรปนั้น แม้ว่าตอนนี้จะมีแผนทางด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงินช่วยเหลือประเทศที่ประสบวิกฤตการณ์ทางการเงินก็ตาม อย่างเช่น สเปน กรีซ ก็คงจะช่วยกำจัดปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่หากรุนแรงก็อาจจะกระทบถึงไทยด้วย เพราะจะเป็นปัญหาลูกโซ่ เนื่องจากมีหลายประเทศในเอเชียส่งออกไปยังกลุ่มยุโรปรวมทั้งไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีปัญหาสองอย่างนี้เกิดขึ้น แนวโน้มกำลังซื้อและภาพรวมเศรษฐกิจก็น่าจะดี ซึ่งสังเกตจากไตรมาสแรกปีนี้กำลังซื้อเริ่มดีขึ้นบ้างเพราะโดนผลกระทบจากน้ำท่วมปลายปีที่แล้ว โดยกำไรของบริษัทฯ ไตรมาสแรกเติบโต 80% แต่พอเข้าไตรมาสที่สองแล้วค่อนข้างดีขึ้นมาก
แนวทางการทำตลาดของบิ๊กซีจากนี้ยังคงเน้น 1. การเป็นผู้นำทางด้านราคาด้วยกลยุทธ์โปรโมชันที่หลากหลาย 2. การนำเสนอบริการและนวัตกรรมใหม่ๆ 3. การเข้าถึงของลูกค้าที่ง่ายขึ้นด้วยการขยายสาขามากขึ้น
ล่าสุดได้นำเสนอบริการโปรโมชันใหม่เกี่ยวกับการชำระค่าบริการในส่วนของค่าสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ โดยขณะนี้เมื่อลูกค้ามาชำระค่าสาธารณูปโภคดังกล่าว จ่ายค่าธรรมเนียมปกติ 5 บาทต่อบิล แต่จะได้รับคูปองเงินสดคืนมูลค่า 10 บาท มาใช้ลดราคาในบิ๊กซีได้ทันที รวมทั้งเมื่อเติมเงินค่าโทรศัพท์ในระบบวันทูคอล จำนวน 150 บาท จะได้รับคูปองเงินสดคืน 5 บาท เติม 300 บาทได้คูปอง 10 บาท และเติมเงิน 500 บาทได้รับคูปอง 20 บาท ถึงสิงหาคมนี้
สำหรับแผนลงทุนขยายสาขาใหม่ครึ่งปีหลังนี้ยังเป็นไปตามเดิม เช่นเดียวกับช่วงครึ่งปีแรกที่ดำเนินการได้ตามแผน ด้วยงบลงทุนรวมทั้งปี 5,500 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทวางแผนขยายสาขารูปแบบไฮเปอร์มาร์เกตและเอ็กซ์ตรา 4 สาขา คาดสิ้นปีมีครบ 112 สาขา, รูปแบบมาร์เกต 6 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะเปิดครบ 18 สาขา, รูปแบบมินิบิ๊กซี 75 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะเปิดครบ 125 สาขา และร้านขายยาเพียว 69 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะเปิดครบ 89 สาขา ส่วนสาขาจัมโบ้และจัมโบ้สเตชันในปีนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขาใหม่ จึงทำให้ยังมีสาขาเปิดให้บริการรูปแบบละ 1 สาขา
นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังหวั่นปัจจัยลบที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั้งหมด โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำท่วมใหญ่ และปัญหาวิกฤตการเงินยุโรป
โดยปัญหาน้ำท่วมนั้น บริษทฯ ได้นำเอาเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วมาเป็นบทเรียนเพื่อวางแผนปรับตัวรับเหตุการณ์ ถ้าหากจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจริง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเรื่องการขนส่งและการสั่งสินค้า การกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ รวมทั้งการปรับเส้นทางการขนส่ง และการหาพื้นที่รองรับในการสร้างคลังสินค้าสำรอง หากเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างปกติ
ขณะที่เรื่องวิกฤตการเงินยุโรปนั้น แม้ว่าตอนนี้จะมีแผนทางด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงินช่วยเหลือประเทศที่ประสบวิกฤตการณ์ทางการเงินก็ตาม อย่างเช่น สเปน กรีซ ก็คงจะช่วยกำจัดปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่หากรุนแรงก็อาจจะกระทบถึงไทยด้วย เพราะจะเป็นปัญหาลูกโซ่ เนื่องจากมีหลายประเทศในเอเชียส่งออกไปยังกลุ่มยุโรปรวมทั้งไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีปัญหาสองอย่างนี้เกิดขึ้น แนวโน้มกำลังซื้อและภาพรวมเศรษฐกิจก็น่าจะดี ซึ่งสังเกตจากไตรมาสแรกปีนี้กำลังซื้อเริ่มดีขึ้นบ้างเพราะโดนผลกระทบจากน้ำท่วมปลายปีที่แล้ว โดยกำไรของบริษัทฯ ไตรมาสแรกเติบโต 80% แต่พอเข้าไตรมาสที่สองแล้วค่อนข้างดีขึ้นมาก
แนวทางการทำตลาดของบิ๊กซีจากนี้ยังคงเน้น 1. การเป็นผู้นำทางด้านราคาด้วยกลยุทธ์โปรโมชันที่หลากหลาย 2. การนำเสนอบริการและนวัตกรรมใหม่ๆ 3. การเข้าถึงของลูกค้าที่ง่ายขึ้นด้วยการขยายสาขามากขึ้น
ล่าสุดได้นำเสนอบริการโปรโมชันใหม่เกี่ยวกับการชำระค่าบริการในส่วนของค่าสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ โดยขณะนี้เมื่อลูกค้ามาชำระค่าสาธารณูปโภคดังกล่าว จ่ายค่าธรรมเนียมปกติ 5 บาทต่อบิล แต่จะได้รับคูปองเงินสดคืนมูลค่า 10 บาท มาใช้ลดราคาในบิ๊กซีได้ทันที รวมทั้งเมื่อเติมเงินค่าโทรศัพท์ในระบบวันทูคอล จำนวน 150 บาท จะได้รับคูปองเงินสดคืน 5 บาท เติม 300 บาทได้คูปอง 10 บาท และเติมเงิน 500 บาทได้รับคูปอง 20 บาท ถึงสิงหาคมนี้
สำหรับแผนลงทุนขยายสาขาใหม่ครึ่งปีหลังนี้ยังเป็นไปตามเดิม เช่นเดียวกับช่วงครึ่งปีแรกที่ดำเนินการได้ตามแผน ด้วยงบลงทุนรวมทั้งปี 5,500 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทวางแผนขยายสาขารูปแบบไฮเปอร์มาร์เกตและเอ็กซ์ตรา 4 สาขา คาดสิ้นปีมีครบ 112 สาขา, รูปแบบมาร์เกต 6 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะเปิดครบ 18 สาขา, รูปแบบมินิบิ๊กซี 75 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะเปิดครบ 125 สาขา และร้านขายยาเพียว 69 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะเปิดครบ 89 สาขา ส่วนสาขาจัมโบ้และจัมโบ้สเตชันในปีนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขาใหม่ จึงทำให้ยังมีสาขาเปิดให้บริการรูปแบบละ 1 สาขา
