กระทรวงอุตสาหกรรมชง ก.พ.ร.ตั้งสำนักงานคณะกรรมการวัตถุอันตราย หวังยกระดับการจัดการวัตถุอันตรายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเร่งปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เทียบมาตรฐานสากล พร้อมของบ 10 ล้านบาทศึกษาทำแบบคู่มือกฎระเบียบด้านสารเคมีของ 10 ประเทศอาเซียนรองรับ AEC
นายชุมพล ชีวะประภานันท์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยภายในงานประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการบริหารจัดการความปลอดภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายภาคอุตสาหกรรม วันที่ 3 ก.ค. ว่า ขณะนี้ กรอ.อยู่ระหว่างการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับสารเคมีและวัตถุอันตราย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสารเคมีและวัตถุอันตรายครอบครองให้เทียบมาตรฐานสากล
ขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้มีการเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เพื่อยกระดับหน่วยงานสำนักงานควบคุมวัตถุอันตรายเป็นสำนักงานคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีระบบเทียบเท่ากรมเพื่อให้เป็นหน่วยงานกลางในการดูแลเรื่องวัตถุอันตรายทั้งหมด ที่จะทำให้การดูแลเรื่องวัตถุอันตรายมีประสิทธิภาพขึ้นเพราะได้รวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารวมไว้ด้วยกัน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ดูแลสารเคมีด้านการเกษตร และองค์การอาหารและยา (อย.) เป็นต้น โดยทาง ก.พ.ร.อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม
นอกจากนี้ยังได้ของบประมาณจำนวน 10 ล้านบาทเพื่อศึกษาทำแบบคู่มือเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายของ 10 ประเทศในอาเซียน รวมถึงจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เพื่อดูว่าแต่ละประเทศมีกฎระเบียบกำหนดไว้อย่างไร หากนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนจะต้องเจอกฎระเบียบอะไรบ้าง เพื่อรับมือการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพราะในอนาคตเชื่อว่ากฎระเบียบเหล่านี้น่าจะนำมารวมเป็นมาตรฐานเดียวกันได้
น.ส.พรรรัตน์ เพชรภักดี ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เอกชนต้องการความชัดเจนของกฎระเบียบ เพราะปัจจุบันจะต้องตีความทางกฎหมายทำให้ขาดความเชื่อมั่น ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากให้มีการจดแจ้งสารเคมีทุกประเภทที่มีการใช้ทั้งที่เป็นอันตราย และไม่เป็นอันตราย จากปัจจุบันที่จดแจ้งเฉพาะสารเคมีอันตราย เนื่องจากบางครั้งเอกชนไม่ทราบว่าสารเคมีที่ใช้อยู่เป็นอันตรายหรือไม่ แต่พอตีความว่าเป็นอันตรายเอกชนกลายเป็นผู้ผิดทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ และต้องการให้มีหน่วยงานเฉพาะเข้ามาดูแลเรื่องการใช้สารเคมีวัตถุอันตราย และนำ พ.ร.บ.วัตถุอันตรายมาทบทวนให้ทันสมัยมากขึ้น