บุรีรัมย์ - จนท.“ดีเอสไอ” ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง ผอ.โรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และตรวจเอกสารหลักฐานการสั่งซื้อ ตรวจรับ และใช้ยา หลังพบยอดสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนเกินจำนวนจริงที่ รพ.สั่งซื้อ เผย รพ.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เตรียมเรียกสอบ “เภสัชกร” ที่อ้างชื่อ รพ.ซื้อยาขายร้านตัวเอง พร้อมหาเส้นทางซื้อ-ขายและความเชื่อมโยงกับแก๊งยาเสพติด
วันนี้ ( 4 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. นายสมชาย ม้าหาญศึก พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชยะรพ พานิชอัตรา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษเลขที่คดีที่ 52/2552 กรณีตรวจสอบพบการการนำยาสูตรผสมซูโดอีเฟรดีนออกไปจากโรงพยาบาลโดยทุจริต ได้เดินทางเข้าพบ นายแพทย์บุญโอม แก้วชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อสอบถามและตรวจสอบข้อมูลการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟรดีน ของโรงพยาบาล หลังตรวจพบว่า นายสมพงษ์ ตีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการโรงพยาบาลหนองกี่ มีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อของโรงพยาบาล สั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน มาจำหน่ายยังร้านขายยาของตัวเอง
โดยเบื้องต้นจากการสอบข้อเท็จจริงจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่ และตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ทั้งการสั่งซื้อ ตรวจรับ และการใช้ยาของโรงพยาบาลพบว่าไม่มียาหายออกนอกระบบ และทุกขั้นตอนมีเอกสารหลักฐานยืนยันชัดเจน จากข้อมูลดังกล่าวเชื่อว่าทางโรงพยาบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ไม่ตรงกับตัวเลขที่รายงานไปยังทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยมียอดสั่งซื้อยาแบบชนิดเม็ดเกินอยู่จำนวน 90,000 เม็ด และชนิดน้ำเกิน 1,500 ขวด ซึ่งกรณีดังกล่าวจะต้องสอบสวนเภสัชกรที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้ง ว่าแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลหนองกี่สั่งซื้อยาดังกล่าวมาเพื่อนำไปใช้อะไร และส่งขายที่ไหนบ้าง เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่
ด้านนายสมชาย ม้าหาญศึก พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนของโรงพยาบาลหนองกี่ในครั้งนี้ จะมีการตรวจสอบวัตถุพยาน และพยานบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน จากนั้นก็จะรวบรวมข้อมูล หลักฐาน ส่งให้คณะกรรมการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพิจาณาตรวจสอบ หากพบมีการกระทำผิดจริงก็จะเอาผิดทางอาญาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา นพ. บุญโฮม แก้วชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ไว้เป็นหลักฐาน หลังตรวจสอบพบยอดการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ในปี 2554 ที่ผ่านมา พบว่ายอดการสั่งซื้อยาของโรงพยาบาลหนองกี่ ที่ทางโรงพยาบาลรายงานกับทางองค์การอาหารและยา (อย.)รายงานไม่ตรงกัน คือ อย.รายงานว่า ส่งยาให้โรงพยาบาล เป็นยาแบบชนิดเม็ด จำนวน 190,000 เม็ด และชนิดน้ำ จำนวน 4,500 ขวด แต่ไม่ตรงกับยอดที่ทางโรงพยาบาลสั่งซื้อจริง
โดยทางโรงพยาบาลหนองกี่ ยืนยันว่า ได้สั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ชนิดเม็ดเพียง 100,000 เม็ด และชนิดน้ำเพียง 3,000 ขวด ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่ จึงสงสัยว่าจะมีผู้แอบอ้างชื่อโรงพยาบาลหนองกี่ สั่งซื้อยาซูโดฯ มาเพื่อประโยชน์ส่วนตัว