xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.รพ.ศิริเวช ลำพูน โร่ร้องขอความเป็นธรรม-หลังมีชื่อสั่งซูโดฯ 9 ครั้งนับล้านเม็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่ - ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริเวช จังหวัดลำพูน ร้องขอความเป็นธรรม หลังจากที่ อย. ป.ป.ส.และตำรวจภาค 5 บุกตรวจพบข้อมูลสั่งซื้อยาแก้หวัดซูโดอีเฟดรีนนับล้านเม็ด ยันโรงพยาบาลสั่งซื้อยาจริงแค่ 2 ครั้งรวม 3 แสนเม็ด ส่วนอีก 9 ครั้งไม่เกี่ยว เชื่อถูกปลอมแปลงเอกสารสั่งซื้อ วอนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนดำเนินคดี

หลังจากเจ้าหน้าที่ขององค์การอาหารและยา หรือ อย.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5,ตำรวจภูธรภาค 5 ลงพื้นที่เข้าตรวจค้นโรงพยาบาลศิริเวช จังหวัดลำพูน ด้วยมีข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการสั่งซื้อยาแก้หวัดจากบริษัทยาของเอกชน 2 แห่ง ปริมาณยามากกว่า 1 ล้านเม็ด ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่สามารถนำเอกสารมาอ้างอิงถึงการสั่งจ่ายยาดังกล่าวมาแสดงได้ จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว

ล่าสุดนายแพทย์โชติ นิสูง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริเวช ได้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อร้องผ่านสื่อมวลชนว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าว เนื่องจาก ทางโรงพยาบาลถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโดยไม่ได้มีความพร้อมในการเตรียมเอกสารข้อมูลความจริงต่างๆ เพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ จนถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีการสั่งซื้อยามากกว่า 1 ล้านเม็ดในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปี

ตามความเป็นจริงแล้วทางโรงพยาบาลมีการสั่งซื้อยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ทั้งสูตรเดี่ยว และสูตรผสม โดยตนลงชื่อสั่งซื้อเมื่อปี 2554 จำนวน 2 ครั้ง คือเดือนมกราคม 1 ครั้ง และเดือนกุมภาพันธ์ 1 ครั้ง เป็นจำนวนยา 350,000 เม็ด ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ในโรงพยาบาลใน 1 ปี แต่พอถึงเดือนมีนาคมกลับพบว่ามีการส่งยาแก้หวัดซูโดอีเฟดรีน สูตรเดี่ยว มาเกินจำนวน 150,000 เม็ด โดยโรงพยาบาลไม่ได้สั่ง ซึ่งโรงพยาบาลก็ได้ทำหนังสือให้ทางบริษัทรับยาคืน และแจ้ง อย.ไปแล้ว ตามเอกสารที่นำมาชี้แจงสื่อมวลชน
และหลังจากนั้นทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้สั่งซื้อยาแก้หวัดมาอีก

จนกระทั่งทราบจาก อย.ล่าสุดว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2554 เป็นต้นมามีการสั่งซื้อยาโดยชื่อของโรงพยาบาลอีก 9 ครั้ง แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นเม็ด หรือประมาณคร่าวๆ ว่าจำนวนยาน่าจะอยู่ตั้งแต่ 450,000-900,000 เม็ด ซึ่งน่าจะเป็นข้อพิรุธที่พบว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร และสั่งซื้อยาโดยใช้ชื่อโรงพยาบาล

นายแพทย์โชติกล่าวอีกว่า บริษัทยาก็ไม่ยอมส่งเอกสารดังกล่าวมาให้ทางโรงพยาบาลตรวจสอบ จึงต้องออกมาวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนก่อนที่จะมีการดำเนินคดีต่อตนเอง ซึ่งไม่มีอำนาจที่จะไปบังคับให้บริษัทยาส่งเอกสารให้ตรวจสอบว่าเป็นการสั่งซื้อยาโดยปลอมแปลงชื่อของโรงพยาบาลหรือไม่ อีกทั้งเซลส์บริษัทยาดังกล่าวก็เป็นผู้ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ทั้ง 2 คนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น