xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ “เออีซี” ดันราคาน้ำตาลพุ่ง ผนึก “มิตรผล” เร่งลดต้นทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธรรมศักดิ์ จิตติมาพร

ไวตามิ้ลค์รับมือเออีซีกระทบโครงสร้างราคาน้ำตาลปรับเพิ่มขึ้น ผนึกมิตรผลเร่งลดต้นทุนการผลิต ลุยนำน้ำเชื่อมผลิตแทนน้ำตาลเกล็ด กัดฟันไม่ขึ้นราคา   หวังสิ้นปียอดขายโตมากกว่า 10% 

นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ เปิดเผยว่า ผลจากการเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งอาจมีผลทำให้โครงสร้างราคาน้ำตาลปรับราคาขึ้นลงตามตลาดมากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำตาลในประเทศยังทรงตัวอยู่ โดยเป็นสินค้าควบคุมราคาอยู่ที่ 23.50 บาทต่อกก.ก็ตาม ซึ่งโครงสร้างราคาน้ำตาลก่อนหน้านี้ช่วง 2-3 ปีได้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 16-18 บาทต่อ กก. มาเป็นถึงกว่า 20 บาทต่อ กก.

จากต้นทุนราคาสินค้าได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งราคาน้ำมัน และราคาวัตถุดิบอย่างถั่วเหลืองนำเข้าที่ปรับขึ้นจาก 500 เหรียญต่อตันเป็น 800 เหรียญต่อตัน ทำให้บริษัทต้องมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านการผลิตเพื่อลดต้นทุนต่างๆ เพราะบริษัทไม่มีแผนปรับราคาสินค้า จากปกติบรรจุภัณฑ์กล่องยูเอชที 10 บาท ต้องปรับเพิ่มขึ้นเป็น 12 บาท แต่บริษัทยังคงขายราคาเดิมคือ 10 บาท คือชนิดกล่องเริ่มตั้งแต่ 7-10 บาท และขนาดขวด 12 บาท หลังเคยปรับราคาเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา  

บริษัทจับมือร่วมกับมิตรผลปรับกระบวนการผลิตนมถั่วเหลือง จากน้ำตาลชนิดเกล็ดมาเป็นน้ำเชื่อม ทั้งนี้เพื่อช่วยลดต้นทุนการประหยัดพลังงาน ลดปริมาณการสต๊อกสินค้าจาก 5-6 วันเป็น 4 ชั่วโมง โดยได้นำร่องปรับการผลิตแล้วที่โรงงานรังสิต 1 แห่ง ส่วนโรงงานที่สุราษฎร์ฯ วางแผนจะปรับในอนาคต อย่างไรก็ตาม ระยะยาวการนำน้ำเชื่อมมาผลิตแทนน้ำตาลเกล็ดจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และวางแผนนำน้ำเชื่อมไปผลิตกลุ่มน้ำส้มกรีนสปอตในอนาคต

นายธรรมศักดิ์ กล่าวว่า การเกิดเออีซีจะทำให้บริษัทขยายตลาดอาเซียนอย่างประเทศฟิลิปปินส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุน และมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท และคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ประกอบการเข้ามาเปิดตัวนมถั่วเหลืองในประเทศมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท จากการที่คนไทยบริโภคนมถั่วเหลืองอันดับ 3 ของโลก หรือ 12 ลิตรต่อคนต่อปี รองจากสิงคโปร์ 14 ลิตรต่อคนต่อปี และอันดับ 1 ฮ่องกง 15 ลิตรต่อคนต่อปี โดยปีนี้คาดว่าตลาดนมถั่วเหลืองเติบโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับตลาดนมโดยรวมโต 7%

แม้เออีซีจะทำให้มีรายใหม่เข้ามาทำตลาด แต่ก็ไม่ได้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากนัก โดยปัจจุบันไวตามิ้ลค์เป็นผู้นำตลาดนมถั่วเหลือง มีส่วนแบ่ง 45% โดยสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตมากกว่า 10% ส่วนเป้าหมายการขยายตลาดส่งออกตั้งเป้าโต 5-10% ทุกปี คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกมากกว่า 20% 

ด้านนางอัมพร กาญจนกำเนิด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดธุรกิจน้ำตาลของกลุ่มมิตรผล กล่าวว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 500 ล้านบาทลงทุนโรงงานและระบบขนส่งน้ำเชื่อม โดยมิตรผลทำหน้าที่ Solution Provider  เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรม  นำร่องการจับมือร่วมกับไวตามิ้ลค์รายแรก โดยการนำโลโก้มิตรผลมาพิมพ์ไว้ด้านหลังกล่องบรรจุภัณฑ์ไวตามิ้ลค์ ซึ่งคาดว่า 2-3 ปีรายได้จากกลุ่มน้ำเชื่อมจะเพิ่มจาก 20% เป็น 40-50% จากปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม 75-80% และกลุ่มผู้ใช้ครัวเรือน 20-25% 

กำลังโหลดความคิดเห็น