xs
xsm
sm
md
lg

ค่าแรง300 ดันสินค้าขึ้นราคาอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -ขึ้นค่าแรงกระทบต้นทุนสินค้าเพียบ ทั้งนมถั่วเหลืองยูเอชที แป้งเด็ก กระดาษ หลอดไฟ หมวกกันน็อก ไม้อัด ถุงพลาสติก จอบ ชุดนักเรียน ยันตั๋วหนัง ที่ราคาอาจต้องปรับขึ้น ส่วนน้ำมันกระทบไม่มาก แต่ปูนซีเมนต์หนักสุด

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งถึงผลการศึกษาผลกระทบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในเดือนเม.ย.2555 ที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าว่า การปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 175.82 บาท เป็นเฉลี่ย 245.04 บาท สูงขึ้น 69.22 บาท หรือ 39.37% ได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าทุกหมวดและทำให้ราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.092-8.565%

โดยสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ราคาเพิ่มเฉลี่ย 0.31-2.27% สินค้าที่ได้รับผลกระทบต่ำสุด คือ แป้งสาลี มากสุดเป็นนมถั่วเหลืองยูเอชที หมวดของใช้ประจำวันเพิ่ม 0.092-3.106% กระทบต่ำสุดยาสีฟันและสูงสุดแป้งเด็ก หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษเพิ่ม 0.491-5.311% กระทบต่ำสุดกระดาษเช็ดชำระ สูงสุดเยื่อกระดาษ

สำหรับหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 0.54-2.118% กระทบต่ำสุดตู้เย็น สูงสุดหลอดไฟฟ้า หมวดบริภัณฑ์ขนส่งเพิ่ม 0.293-2.911% กระทบต่ำสุดรถยนต์นั่ง สูงสุดหมวกนิรภัย หมวดวัสดุก่อสร้างเพิ่ม 0.189-4.372% กระทบต่ำสุดเหล็กแผ่นรีดร้อน สูงสุดไม้อัดสลับชั้น หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเพิ่ม 0.381-2.59% กระทบต่ำสุดเม็ดพลาสติก สูงสุดถุงพลาสติก หมวดปัจจัยทางเกษตรเพิ่ม 0.126-2.013% กระทบต่ำสุดปุ๋ยเคมี สูงสุดจอบ และหมวดทั่วไปเพิ่ม 1.075-8.565% กระทบต่ำสุดแถบบันทึกเสียง สูงสุดเครื่องแบบนักเรียน ค่าขนส่ง (150 กม.ต่อเที่ยว) กระทบ 4.458% ค่าชมภาพยนตร์เพิ่ม 0.686%

ส่วนผลกระทบต่อราคาสินค้าเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีการปรับค่าแรงขึ้นจาก 215 บาท เป็น 300 บาท หรือสูงขึ้น 39.53% พบว่าราคาสินค้ามีการปรับเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งอาศัยแรงงานในการตัดเย็บปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด ส่วนที่ได้รับผลกระทบน้อยสุดเป็นยาสีฟัน เพราะส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักรในการผลิต

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า การศึกษาผลกระทบจากการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 29.44 บาท เป็นลิตรละ 32.33 บาท ที่มีต่อราคาสินค้าพบว่า มีผลกระทบต่อสินค้าทุกกลุ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเฉลี่ย 0.0031-0.8541% โดยสินค้าที่ได้รับกระทบน้อยสุด คือ ผ้าอนามัยเพราะมีน้ำหนักเบา และมากสุดเป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เนื่องจากมีปริมาตร และน้ำหนักมากทำให้ต้องใช้น้ำมันและค่าขนส่งมาก

ทั้งนี้ เมื่อแยกตามหมวดสินค้าพบว่า หมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่ม 0.013-0.3467% กระทบต่ำสุดเส้นหมี่อบแห้ง สูงสุดน้ำดื่ม หมวดของใช้ประจำวันเพิ่ม 0.003-0.265% กระทบต่ำสุดผ้าอนามัย สูงสุดผงซักฟอก หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์เพิ่ม 0.03-0.264% กระทบต่ำสุดเยื่อกระดาษ มากสุดกระดาษชำระ หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 0.056-0.356% กระทบต่ำสุดเตารีด สูงสุดพัดลม

ส่วนหมวดบริภัณฑ์ขนส่ง 0.011-0.144% กระทบต่ำสุดรถยนต์ สูงสุดหมวกนิรภัย หมวดก่อสร้างเพิ่ม 0.018-0.854% กระทบต่ำสุดอลูมิเนียมเส้นหน้าตัด สูงสุดปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 0.014-0.044% กระทบต่ำสุดถุงพลาสติก สูงสุดน้ำมันหล่อลื่น หมวดปัจจัยการเกษตรเพิ่ม 0.021-0.062% กระทบต่ำสุดเครื่องสูบน้ำ สูงสุดยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และหมวดทั่วไปเพิ่ม 0.015-0.034%
กระทบต่ำสุดรองเท้านักเรียน สูงสุดเครื่องปั้มน้ำ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดที่ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรงขอปรับราคาสินค้าเข้ามา โดยยืนยันว่าจะดูแลราคาสินค้าเต็มที่ เพราะนอกจากบัญชีสินค้าควบคุม 42 รายการแล้ว ยังมีการดูแลสินค้าติดตามดูแลอีก 200 รายการ แต่หากประชาชนพบเห็นการฉวยปรับขึ้นราคาสามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ 1569 จะเร่งตรวจสอบให้ถือว่าผิดกฎหมายเนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาต.
กำลังโหลดความคิดเห็น