“ส.ขอนแก่น” ปรับรับเออีซี เพิ่มผลิตลุย “สแน็ก-ฮาลาล”

“ส.ขอนแก่น” ปรับทิศรับเออีซี บุกกลุ่มอาหารแปรรูปเต็มสูบ ซีฟูด สแน็ก เท 100 ล้านบาทผุดโรงงานผลิตอาหารฮาลาลเจาะชาวมุสลิมในอาเซียนร่วม 300 ล้านคน พร้อมแตกไลน์ขนมขบเคี้ยวชนิดทอด “มูชิ” เจาะกลุ่มวัยรุ่น หวังสิ้นปีกวาดรายได้เกือบ 2,000 ล้านบาท

นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารแปรรูป ส.ขอนแก่น  เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุกกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปทุกกลุ่ม ทั้งในกลุ่มอาหารพื้นเมือง ซีฟูด และขนมขบเคี้ยว เพื่อรองรับยุทธศาสตร์การบุกตลาดอาเซียน และการขยายตัวของตลาดอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ในไทย ภายหลังจากเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า

ปีหน้าจะลงทุนกว่า 100 ล้านบาทสร้างโรงงานใหม่บนพื้นที่ 24 ไร่บริเวณย่านมหาชัยเพื่อผลิตอาหารฮาลาลเจาะกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งในอาเซียนพบว่ามีประชากรถึง 300 ล้านคนที่เป็นชาวมุสลิม รวมทั้งขยายตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ลงทุน 150 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตกลุ่มอาหารซีฟูด

“เราต้องปรับตัวเพื่อรับการเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตและอยู่รอด ด้วยการวางตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญธุรกิจอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ครบวงจร”

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาทขยายไลน์สินค้ากลุ่มขนมขบเคี้ยว เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “มูชิ” ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อไก่และเนื้อหมูทอดกรอบ เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 15-27 ปี แตกต่างจากแบรนด์อองเทร่ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยเริ่มทำงานอายุ 20-30 ปีขึ้นไป ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมเปิดตัวขนมขึ้นรูปแบรนด์ใหม่ในปีนี้เจาะตลาดแมส เพื่อทำให้สินค้าของบริษัทครอบคลุมทุกตลาด

โดยวางเป้าหมายจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวกลุ่มเนื้อสัตว์ จากปัจจุบันตลาดมีมูลค่า 2,250 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มเนื้อปลา 1,500 ล้านบาท กลุ่มปลาหมึก 600 ล้านบาท และกลุ่มเนื้อหมู-ไก่ 100-200 ล้านบาท และเตรียมเปิดตัวขนมหวานในช่วงไตรมาส 3 

ที่เราแตกไลน์ขนมขบเคี้ยวกลุ่มทอด เพราะขนมชนิดทอดเป็นตลาดใหญ่สัดส่วน 95% เติบโต 3-4 เท่าตัว เมื่อเทียบกับตลาดชนิดอบที่มีสัดส่วนเพียง 5% จากตลาดขนมขบเคี้ยวมูลค่า 18,300 ล้านบาท ในปีนี้มีการเติบโต 10-15% หรือมีมูลค่า 22,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ กลางปีนี้บริษัทยังได้ปรับแพกเกจจิ้งขนมขบเคี้ยวอองเทร่ใหม่เพื่อให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สินค้าของ ส.ขอนแก่นทั้งหมดได้ให้บริษัทเพนส์มาร์เก็ตติ้งฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าให้ โดยคาดว่ารายได้กลุ่มขนมขบเคี้ยวสิ้นปีนี้จะมีรายได้เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 150-180 ล้านบาท เป็น 250 ล้านบาท แบ่งเป็นอองเทร่ 200 ล้านบาท และอีก 50 ล้านบาทเป็นมูชิ

“ปีนี้กลุ่มธุรกิจอาหารของบริษัทมีการเติบโตมาก จากเดิมที่ใช้กำลังการผลิตเพียง 80% แต่ปีนี้ขยายเพิ่มเป็น 100% แล้ว ทำให้เราต้องทุ่มงบ 150 ล้านบาทขยายกำลังการผลิตเพิ่ม”
 
นายเจริญกล่าวว่า ผลประกอบการอีก 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้าแต่ละปีต้องเติบโต 20-30% สู่เป้าหมายกวาดรายได้ 500 ล้านบาท โดยต้นปีหน้าบริษัทวางแผนจะเปิดตัวแฟรนไชส์ แซบ เรสเตอร์รองท์ ตั้งเป้าจะขยายให้ครบ 200 สาขา โดยขณะนี้เป็นสาขาของตนเองที่ลงทุนเอง 4 แห่ง และสิ้นปีขยายเพิ่มอีก 3 แห่ง เบื้องต้นใช้งบลงทุนสาขา 3.5-5 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการโดยรวมของบริษัท ปีนี้ตั้งเป้าโต 15% หรือเกือบ 2,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมีรายได้ 1,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันกลุ่มขนมขบเคี้ยวมีสัดส่วนรายได้ 8% ของรายได้รวม