รมว.คมนาคมสั่งตั้ง กก.สอบไฟฟ้าหอบังคับการบิน “สุวรรณภูมิ” ขัดข้อง ส่งผลให้เครื่องบิน 50 ลำได้รับผลกระทบ ย้ำต้องรู้ผลภายใน 15 วันก่อนเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับสายการบินและผู้โดยสารเพื่อเรียกความเชื่อมั่น ผู้อำนวยการ ทสภ.ยันเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่เกี่ยวการปรับปรุงซ่อมรันเวย์ คาดแล้วเสร็จ 9 ส.ค.นี้
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเดินทางเข้าตรวจสอบสาเหตุหอบังคับการบินสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเกิดเหตุระบบไฟฟ้าขัดข้องจนทำให้เครื่องบิน 50 ลำได้รับผลกระทบต้องเปลี่ยนไปลงสนามบินอื่นๆ จำนวน 13 ลำเมื่อวานนี้ โดยแบ่งเป็นสนามบินอู่ตะเภา 6 ลำ สนามบินเชียงใหม่ 2 ลำ สนามบินภูเก็ต 2 ลำ สนามบินกัวลาลัมเปอร์ 2 ลำ และสนามบินเสียมราฐ 1 ลำ ขณะที่มีเที่ยวบินรอขึ้นบินจำนวน 21 ลำ รอนานที่สุด 105 นาที ส่วนเครื่องบินที่ต้องบินวนรอลงจอดมี 15 ลำ โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาบินวน 30 นาที สูงสุด 71 นาที
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุของปัญหาดังกล่าว โดยมีนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการ และเชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมตรวจสอบหาสาเหตุว่ากรณีนี้เกิดการขัดข้องจากอุปกรณ์ อุบัติเหตุ หรือบุคลากร และหาทางแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น กลาง และยาวด้วย เพื่อสรุปปัญหาที่ชัดเจนภายใน 15 วัน ก่อนเร่งทำความเข้าใจกับผู้โดยสารและสายการบินเพื่อเรียกความเชื่อมั่นต่อไป
พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวบรวมแล้วจัดทำเป็นคู่มือปฏิบัติเพื่อใช้เป็นมาตรฐานการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่อไป
น.ต.ประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ยอมรับว่า ปัญหาลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2551 ที่จอโทรทัศน์วงจรปิดมีปัญหาส่งผลต่อการควบคุมอากาศยาน แต่สำหรับครั้งนี้เกิดปัญหาจากระบบจ่ายไฟฟ้าต่อเนื่องอัตโนมัติ (ยูพีเอส) เกิดช็อตทำให้ไฟฟ้ากำลังที่จ่ายให้ระบบควบคุมการจราจรทางอากาศขาดหายไปประมาณ 30 นาที
กรณีดังกล่าวทำให้หอบังคับการบินไม่สามารถควบคุมการขึ้น-ลง ของเครื่องบินไปยังสนามบินดอนเมืองได้เช่นกัน เพราะเป็นหน่วยควบคุมการจราจรทางอากาศหน่วยเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ได้แก้ปัญหาโดยใช้วิธีการใช้ระบบวิทยุสื่อสารในการควบคุมจราจรทางอากาศแทน ซึ่งเป็นไปตามแผนปฏิบัติฉุกเฉินที่มีการซ้อมอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ระบบจ่ายไฟฟ้าต่อเนื่องอัตโนมัติและระบบไฟฟ้าสำรองที่เกิดปัญหาขัดข้อง พบว่ามีอายุการใช้งาน 7 ปี ซึ่งขณะนี้ถูกใช้งานมา 6 ปีแล้ว แต่ยอมรับว่าอุปกรณ์อาจเกิดความเสียหายขึ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องนอกเหนือการควบคุม โดยวิทยุการบินอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้าสำรองเพื่อป้องกันไฟฟ้าดับได้ 100% แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2555 นี้
ด้านนายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหายังไม่มีสายการบินใดๆ แจ้งเรื่องเรียกร้องค่าชดเชยเข้ามา ซึ่งทาง ทสภ.ได้ทำความเข้าใจกับสายการบินต่างๆ แล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสุดวิสัย ส่วนความคืบหน้าการปรับซ่อมรันเวย์คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 9 สิงหาคม 2555 นี้