ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ พ.ค. 55 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 แต่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าเริ่มลด ส่งสัญญาณผวาการส่งออกหดตัวจากปัญหาหนี้อียู เสนอรัฐชะลอการขึ้นค่าจ้าง 300 บาทต่อวันใน 70 จังหวัดที่เหลือออกไป พร้อมเร่งหามาตรการช่วยเอสเอ็มอีและกระตุ้นการบริโภคในประเทศรับมือ
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนพฤษภาคม 2555 จำนวน 1,110 รายครอบคลุม 42 กลุ่มอุตสาหกรรม ส.อ.ท. ว่า ค่าดัชนีเชื่อมั่นเดือน พ.ค.อยู่ที่ระดับ 106.0 เพิ่มขึ้นจากระดับ 104.0 ในเดือน เม.ย. 55 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และมีค่าเกิน 100 เป็นเดือนที่ 4 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ดัชนีเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 111.1 ลดลงจากระดับ 112.6 ในเดือน เม.ย. 55 จากองค์ประกอบคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มลดลงจากผลกระทบเศรษฐกิจสหภาพยุโรปภาพรวมหรืออียู ต้นทุนผู้ประกอบการจากปัจจัยต่างๆ ทั้งค่าแรงงานที่ปรับขึ้น 300 บาทต่อวันนำร่อง 7 จังหวัด ต้นทุนพลังงาน โดยปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการใน 3 เดือนข้างหน้าได้แก่ ผลกระทบจากการเมืองในประเทศที่ 61.2% มองว่าจะแย่งลง ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก 54% มองว่าจะแย่ลง เป็นต้น
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือน พ.ค.นี้ คือ 1. ชะลอการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันในพื้นที่ 70 จังหวัดที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 56 2. หามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) และเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับประโยชน์จากการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล จาก 30% เหลือ 23% 3. ส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ และ 4. สร้างเสถียรภาพทางการเมือง
