xs
xsm
sm
md
lg

ขยับค่าจ้าง 300 บาทป่วนตลาดแรงงาน จับตาสิ่งทอ-รองเท้าย้ายลงทุนเพื่อนบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดแรงงานป่วนหลังขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ธุรกิจต้องขยับค่าแรงทั้งระบบ แรงงานเกิดการต่อรองมากขึ้น แถมธุรกิจเริ่มแย่งชิงแรงงานฝีมือสูงลดขั้นตอนการฝึกฝีมือ จับตาธุรกิจรองเท้า-สิ่งทอ หนีไม่พ้นย้ายไปอยู่ตามชายแดนและประเทศเพื่อนบ้านแทน

นายชนินทร์ จิตต์โกมุท นายกสมาคมรองเท้าไทย เปิดเผยว่า จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันขณะนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรองเท้าอย่างมากเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งแรงงานสูง โดยเฉพาะกว่า 50% อาศัยแรงงานต่างด้าวเมื่อแรงงานขั้นต่ำต้องปรับเพิ่มค่าจ้างก็ส่งผลต่อเนื่องไปยังแรงงานฝีมือที่ต้องขยับตามเพื่อรักษาคนงานเอาไว้ เนื่องจากภาวะขาดแคลนแรงงานฝีมือทำให้เกิดการดึงตัวแรงงานสูงขึ้นเพราะการฝึกแรงงานใหม่ต้องใช้เวลา ขณะที่มาตรการรัฐที่ออกมาดูแลผลกระทบในทางปฏิบัติยังเข้าไม่ถึง

“เราต้องยอมรับว่าเราขาดแคลนแรงงานขั้นต่ำที่ต้องพึ่งต่างด้าวเมื่อเราเพิ่มค่าจ้างเป็น 300 บาทต่อวันโดยไม่ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพด้านฝีมือ เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แรงงานต่อรองมากขึ้นธุรกิจจึงต้องจ่ายเพิ่มในทุกระดับ ซึ่งเอกชนไม่ได้ว่าถ้ารัฐบาลจะขึ้นค่าแรงแต่ขอให้มองเรื่องการพัฒนาฝีมือประกอบด้วย และมีมาตรการมาส่งเสริมเอกชนบ้าง เช่น การส่งเสริมเอกชนไปทำตลาดต่างประเทศ ให้เงินสนับสนุนบางส่วนไปเพิ่มประสิทธิภาพด้านแรงงาน ฯลฯ แต่กลับเป็นว่าเอกชนต้องพึ่งตนเองเป็นหลัก ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเอกชนเขากลับได้รับการส่งเสริมทุกด้าน” นายชนินทร์กล่าว

นายชนินทร์กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ผลิตรองเท้ากำลังมองหาทางออกคือการพิจารณามองการย้ายลงทุนไปยังแนวตะเข็บชายแดนไทยเพื่อรับแรงงานต่างด้าวและการย้ายไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะพม่า เนื่องจากพม่าเริ่มเปิดประเทศคาดว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งแรงงานต่างด้าวคงจะย้ายกลับถิ่นฐานเดิม ไทยจะพึ่งแรงงานต่างด้าวไม่ได้อีกต่อไป และที่สุดธุรกิจรองเท้าไทยจะอยู่ได้เฉพาะส่วนของการทำเทรดเดอร์เท่านั้น

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับเพิ่มขึ้น 300 บาทต่อวันนำร่อง 7 จังหวัด และ 40% ในจังหวัดที่เหลือนั้นยอมรับว่าส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ให้ทุกระบบต้องปรับเพิ่มขึ้น แต่การได้แรงงานที่มีฝีมือยังเหมือนเดิมและอาจไม่จูงใจให้แรงงานขั้นต่ำทำการพัฒนาฝีมือตนเอง

ดังนั้น ธุรกิจเองหากหาเครื่องจักรทดแทนได้ก็คงจะต้องลงทุนเพิ่ม แต่ธุรกิจใดที่ยังจำเป็นต้องใช้แรงงานเชื่อว่าที่สุดคงจะต้องมองไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

นายพากร วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้โรงงานในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยามีการติดป้ายประกาศรับแรงงานใหม่เข้าทำงานจำนวนมากตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากโรงงานเริ่มมีการฟื้นฟูกิจการจากภาวะน้ำท่วม ซึ่งก่อนหน้านั้นแรงงานเกือบ 1 แสนคนต้องว่างงานชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมแรงงานดังกล่าวยังคงเข้าสู่ระบบไม่เต็มที่เพราะโรงงานบางแห่งยังรอเครื่องจักรใหม่ และบางแห่งปิดกิจการรวมถึงการย้ายไปยังพื้นที่อื่น

“ต้องยอมรับว่าแรงงานโดยรวมยังคงขาดแคลนโดยเฉพาะแรงงานขั้นต่ำเพราะคนไทยส่วนหนึ่งยังเลือกงานอยู่ ถ้ารัฐไม่จัดระบบการศึกษาให้เหมาะสมกับความต้องการแรงงานไทยก็จะต้องอาศัยแรงงานต่างด้าวมากขึ้น และที่สุดโรงงานส่วนหนึ่งก็ต้องมองการย้ายฐานไปประเทศเพื่อนบ้าน” นายพากรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น