“บุญทรง” จีบจีนซื้อข้าวไทยเพิ่มเป็นปีละ 2 ล้านตัน พร้อมหาทางดันมูลค่าการค้าเพิ่มเป็น 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 59 อ้อนเปิดตลาดไก่สดหลังอียูเลิกแบน จับมือเอกชนดันครัวไทยสู่โลก
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเข้าพบว่า ไทยได้เสนอให้จีนซื้อข้าวทุกชนิดจากไทยเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 2 ล้านตัน จากปัจจุบันที่ซื้อขายอยู่ที่ปีละไม่ถึง 1 ล้านตัน และในช่วง 4 เดือนแรกซื้อจากไทยแล้วประมาณ 3 แสนตัน ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่ายไปหารือกันในรายละเอียดแล้ว
ทั้งนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางที่จะทำให้การค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2559 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ตามความประสงค์ของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ โดยช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) มูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีนเพิ่มขึ้นแล้ว 18%
นายบุญทรงกล่าวว่า ไทยได้ขอให้เอกอัครราชทูตจีนหารือกับรัฐบาลท้องถิ่นของจีนให้ยืดระยะเวลาผ่อนผันให้ผู้ส่งออกสินค้ามันเส้นของไทยปรับปรุงบรรจุภัณฑ์มันเส้นในการส่งออก จากเดิมที่ส่งออกไปจีนแบบยกกอง และขึ้นสินค้าที่ท่าเรือเหลียนหยุนก่าง แต่รัฐบาลท้องถิ่นสั่งห้ามนำเข้ามันเส้นจากไทยจนกว่าไทยจะปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพราะก่อให้เกิดฝุ่น และมลพิษ ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนยินดีช่วย แต่อยากให้ผู้ส่งออกไทยปรับวิธีการส่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์แทน
ขณะเดียวกัน ได้ฝากให้เอกอัครราชทูตจีนช่วยผลักดันการเปิดตลาดไก่สดแช่แข็งให้ไทย เพราะขณะนี้สหภาพยุโรป (อียู) ได้สั่งยกเลิกการห้ามนำเข้าแล้ว จึงอยากให้จีนยกเลิกเช่นเดียวกัน
ในการหารือครั้งนี้ เอกอัครราชทูตจีนขอให้ไทยช่วยสนับสนุนให้อาเซียนทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับฮ่องกง จากเดิมที่มีการทำแล้วในกรอบอาเซียน-จีนเท่านั้น ซึ่งไทยไม่ได้ขัดข้อง โดยขณะนี้อาเซียนอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ หากแล้วเสร็จจะนำเข้าหารือในเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียนซัมมิต) ที่ประเทศกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงขอให้รัฐบาลไทยพิจารณาให้ภาคเอกชนจากจีนเข้ามาลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่ไทยมีแผนจะก่อสร้างในเร็วๆ นี้ด้วย
นายบุญทรงกล่าวว่า สำหรับโครงการครัวไทยสู่โลก ได้เชิญภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารมาหารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารไทย วัตถุดิบประกอบอาหาร เครื่องปรุงรส รวมถึงของใช้ที่เกี่ยวข้องบนโต๊ะอาหาร ของตกแต่งร้านอาหารให้ได้มากขึ้น
“เอกชนได้เสนอให้รัฐช่วยผลักดันการตราสินค้าของตนเองเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่ยังเป็นการรับจ้างผลิตแล้วใส่ตราสินค้าของประเทศผู้สั่งซื้อ และขอให้ส่งเสริมการเปิดศูนย์กระจายสินค้าในต่างประเทศ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและการเข้าถึงตลาดของสินค้าไทยให้ได้ดีขึ้น เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาใต้ ยุโรป รัสเซีย เป็นต้น พร้อมกับจัดตั้งศูนย์วิจัยและตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนการส่งออกให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งรัฐพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอยู่แล้ว” นายบุญทรงกล่าว
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเข้าพบว่า ไทยได้เสนอให้จีนซื้อข้าวทุกชนิดจากไทยเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 2 ล้านตัน จากปัจจุบันที่ซื้อขายอยู่ที่ปีละไม่ถึง 1 ล้านตัน และในช่วง 4 เดือนแรกซื้อจากไทยแล้วประมาณ 3 แสนตัน ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่ายไปหารือกันในรายละเอียดแล้ว
ทั้งนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางที่จะทำให้การค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2559 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ตามความประสงค์ของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ โดยช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) มูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีนเพิ่มขึ้นแล้ว 18%
นายบุญทรงกล่าวว่า ไทยได้ขอให้เอกอัครราชทูตจีนหารือกับรัฐบาลท้องถิ่นของจีนให้ยืดระยะเวลาผ่อนผันให้ผู้ส่งออกสินค้ามันเส้นของไทยปรับปรุงบรรจุภัณฑ์มันเส้นในการส่งออก จากเดิมที่ส่งออกไปจีนแบบยกกอง และขึ้นสินค้าที่ท่าเรือเหลียนหยุนก่าง แต่รัฐบาลท้องถิ่นสั่งห้ามนำเข้ามันเส้นจากไทยจนกว่าไทยจะปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพราะก่อให้เกิดฝุ่น และมลพิษ ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนยินดีช่วย แต่อยากให้ผู้ส่งออกไทยปรับวิธีการส่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์แทน
ขณะเดียวกัน ได้ฝากให้เอกอัครราชทูตจีนช่วยผลักดันการเปิดตลาดไก่สดแช่แข็งให้ไทย เพราะขณะนี้สหภาพยุโรป (อียู) ได้สั่งยกเลิกการห้ามนำเข้าแล้ว จึงอยากให้จีนยกเลิกเช่นเดียวกัน
ในการหารือครั้งนี้ เอกอัครราชทูตจีนขอให้ไทยช่วยสนับสนุนให้อาเซียนทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับฮ่องกง จากเดิมที่มีการทำแล้วในกรอบอาเซียน-จีนเท่านั้น ซึ่งไทยไม่ได้ขัดข้อง โดยขณะนี้อาเซียนอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ หากแล้วเสร็จจะนำเข้าหารือในเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียนซัมมิต) ที่ประเทศกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงขอให้รัฐบาลไทยพิจารณาให้ภาคเอกชนจากจีนเข้ามาลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่ไทยมีแผนจะก่อสร้างในเร็วๆ นี้ด้วย
นายบุญทรงกล่าวว่า สำหรับโครงการครัวไทยสู่โลก ได้เชิญภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารมาหารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารไทย วัตถุดิบประกอบอาหาร เครื่องปรุงรส รวมถึงของใช้ที่เกี่ยวข้องบนโต๊ะอาหาร ของตกแต่งร้านอาหารให้ได้มากขึ้น
“เอกชนได้เสนอให้รัฐช่วยผลักดันการตราสินค้าของตนเองเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่ยังเป็นการรับจ้างผลิตแล้วใส่ตราสินค้าของประเทศผู้สั่งซื้อ และขอให้ส่งเสริมการเปิดศูนย์กระจายสินค้าในต่างประเทศ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและการเข้าถึงตลาดของสินค้าไทยให้ได้ดีขึ้น เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาใต้ ยุโรป รัสเซีย เป็นต้น พร้อมกับจัดตั้งศูนย์วิจัยและตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนการส่งออกให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งรัฐพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอยู่แล้ว” นายบุญทรงกล่าว