ยูนิลีเวอร์อัดงบ 100 ล้านบาทรุกตลาดฟูดโซลูชันรับ AEC ธุรกิจฟูดเซอร์วิสไทยแห่ปรับตัวรับมือการแข่งขัน คู่แข่งอาเซียนดาหน้าลงตลาด หลังพบพฤติกรรมคนไทยกินข้าวนอกบ้านติดอันดับ 1 ใน 4 อาเซียน หวังดันรายได้ฟูดโซลูชันโตมากกว่า 5.5% ครองแชร์ 30-40%
นายประสิทธิ์ ปรีชาเฉลียว กรรมการผู้จัดการ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดโซลูชั่นส์ ประจำประเทศไทย อินโดจีน และเวียดนาม เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ใช้งบ 100 ล้านบาทดำเนินการตลาดกลุ่มธุรกิจฟู้ดโซลูชั่นส์ในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากคาดว่าการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ทำให้ภาคธุรกิจอาหารไทยต้องตื่นตัวและปรับแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น เพราะในอนาคตการแข่งขันธุรกิจฟูดเซอร์วิสจะมีความรุนแรง
สำหรับไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านอาหารทั้งในแง่ของทรัพยากร และภาครัฐมีเป้าหมายกับโครงการครัวไทยสู่โลก นอกจากนี้ ไทยยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งแนวโน้มพฤติกรรมของคนไทยที่หันมารับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น ส่งผลประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 4 ของการรับประทานอาหารนอกบ้านมากที่สุดในอาเซียนหรือเฉลี่ยที่ประมาณ 7-8 ครั้งต่อสัปดาห์รองจากประเทศสิงคโปร์ ขณะที่การรับประทานอาหารนอกบ้านประเภทฟิวชันมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-4 ครั้งต่อเดือน
กลยุทธ์การรุกธุรกิจฟู้ด โซลูชั่นส์ของบริษัท เน้นการบริหารลูกค้า เมนู งานครัว มุ่งการป้อนข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเทรนด์ของอาหาร บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมเทรนด์อาหารสไตล์คอสโมโพลิแทน ซึ่งจะมีการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารไร้พรมแดนครั้งแรกในไทย ด้วยแรงบันดาลใจของเชฟนักสร้างสรรค์ การคัดสรรวัตถุดิบ เทคนิควิธีการปรุงอาหาร รวมไปถึงการนำเสนอจานอาหาร รวมกว่า 40 ครั้งทั่วประเทศ นำร่องจับมือร้านอาหารคอสโมโพลิแทนต้นแบบ 10 ร้านในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดฟูดโซลูชันด้วยการมีส่วนแบ่ง 30-40%
สำหรับเป้าหมายของการจัดกิจกรรมการตลาดในรูปแบบดังกล่าวตลอด 3 ปีนับจากนี้คาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการของธุรกิจมีอัตราการเติบโตมากกว่าจีดีพีของประเทศที่คาดว่าจะเติบโตอยู่ในระดับ 5.5% ขณะที่ตลาดฟูดเซอร์วิสในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตมากกว่า 5% จากมูลค่า 200,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาซึ่งมีอัตราการเติบโตเพียง 3% เพราะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นธุรกิจภัตตาคาร 64% โรงแรม 14% และกลุ่มเครือข่ายร้านอาหาร 15% และที่เหลืออื่นๆ