ส.อ.ท.ยอมรับ “ส่งออก” โคม่า หลังปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปส่อบานปลาย-ลุกลามเป็นโดมิโน ระบุสัญญาณชะลอตัว เริ่มชัดเจน 4 เดือนแรกโตแค่ 3.8% หากเข็นตามเป้ารัฐบาลอัตรา 15% เป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะแต่ละเดือนต้องขยายตัวไม่ต่ำกว่า 23%
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายหลังร่วมงานสัมมนา “เจาะลึกการลงทุนไทยในกลุ่ม CLMV” โดยยอมรับว่าภาคเอกชนเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของภาคการส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยเพียงร้อยละ 3.8 เท่านั้น
ทั้งนี้ หากจะทำให้มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 15 ตามที่รัฐบาลคาดการณ์เอาไว้คงทำได้ลำบาก เพราะในช่วง 8 เดือนที่เหลือต้องผลักดันการส่งออกให้แต่ละเดือนขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 23.5 หรือคิดเป็นมูลค่าเดือนละ 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตอนนี้ต้องยอมรับว่าวิกฤตหนี้ในสหภาพยุโรป (อียู) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกขยายตัวลดลง หากปัญหาลุกลามบานปลาย การส่งออกจะขยายตัวเพียงร้อยละ 7-9 เท่านั้น
“แม้ว่าสัดส่วนการส่งออกของไทยไปยุโรปจะน้อย แต่จะมีผลกระทบทางอ้อมต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบมาก แต่หากเหตุการณ์ไม่รุนแรงเกินไป การส่งออกของประเทศไทยน่าจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 11 ได้แน่นอน”
นายธนิตยังกล่าวเสริมว่า กลุ่มประเทศ CLMV หรือประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เป็นกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ภาคเอกชนไทยควรหันไปลงทุนให้มากขึ้น เพราะมีต้นทุนค่าแรงที่ต่ำกว่าประเทศไทย 2-3 เท่า
นอกจากนี้ กลุ่มประเทศ CLMV ยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ในการส่งออกจากประเทศต่างๆ อีกมาก รวมทั้งจะเป็นการลดความเสี่ยงจากปัญหาวิกฤตหนี้ในสหภาพยุโรป ปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ และนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำได้ เพราะอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่สูงขึ้นถือเป็นต้นทุนสำคัญของภาคเอกชน
