ระนอง - สำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศ ร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัดระนอง จัดสัมมนาโอกาสของตลาดในการลงทุน การทำธุรกิจส่งออก การรับรองสินค้าเพื่อรับสิทธิพิเศษทางภาษี และการป้องกันการสวมสิทธิ แก่นักลงทุน นักธุรกิจ และผู้ประกอบการ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนก้าวสู้เวที AEC ในปี พ.ศ.2558
ที่โรงแรมทินิดี จังหวัดระนอง นางวิจิตรา เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศ ได้เป็นประธานจัดการสัมมนา เรื่องการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร และการป้องกันสินค้าต่างชาติสวมสิทธิ รวมถึงโอกาสของสินค้าไทยในตลาดเพื่อนบ้าน โดยมีนายภาษิต พุ่มชูศรี ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน และนายวีระชัย เพียรเพิ่มภัทร หัวหน้ากลุ่มงานตรวจสอบคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดสินค้ากรมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกันเป็นผู้บรรยาย ซึ่งในการบรรยายได้มีผู้ประกอบการ นักธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมรับฟังกว่า 100 คน
นางวิจิตรา เหตานุรักษ์ ผอ.สำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เรื่องถิ่นกำเนิดสินค้าผลประโยชน์ และการขยายโอกาสทางด้านตลาดกับเพื่อนบ้าน ซึ่งในปัจจุบัน เอกสารสำคัญด้านการค้าส่งออกไม่ต้องใช้ แต่ในอนาคต ถ้ามีการรวมภาคี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ไทยเองก็จะมีโอกาสในการลงทุนค้าขายร่วมกับประเทศต่างๆ ในอาเซียนมากขึ้น ดังนั้น การที่เราจะทำให้สินค้าของเราที่ขายให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ นั้น ได้รับรู้ว่าเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เพราะฉะนั้น จึงต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือเรียกว่า CO หรือในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันจะเรียกว่า อาติก้าฟอร์ม D คือผู้ประกอบการสามารถที่จะรับรองสินค้าที่จะขาย และผลิตขึ้นมาในประเทศไทย หรือผลิตขึ้นภายใต้กลุ่มประเทศอาเซียนโดยใช้อินวอยซ์ของตนเอง เพื่อป้องกันการแอบอ้างลิขสิทธิ์ในสินค้านั้นๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนได้รับทราบ และตระหนักถึงข้อมูลเหล่านี้ เพื่อนำเอาความรู้ไปปรับใช้ในต่างประเทศด้วย
ผอ.สำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศ กล่าวต่อว่า ทางสำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะมุ่งมั่นบุกเบิกหาตลาดใหม่ๆ หรือประเทศคู่ค้าใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ และนักลงทุนของไทยได้ไปลงทุน เพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญ จะได้นำรายได้เข้าประเทศไทยมากขึ้น
ที่โรงแรมทินิดี จังหวัดระนอง นางวิจิตรา เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศ ได้เป็นประธานจัดการสัมมนา เรื่องการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร และการป้องกันสินค้าต่างชาติสวมสิทธิ รวมถึงโอกาสของสินค้าไทยในตลาดเพื่อนบ้าน โดยมีนายภาษิต พุ่มชูศรี ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน และนายวีระชัย เพียรเพิ่มภัทร หัวหน้ากลุ่มงานตรวจสอบคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดสินค้ากรมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกันเป็นผู้บรรยาย ซึ่งในการบรรยายได้มีผู้ประกอบการ นักธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมรับฟังกว่า 100 คน
นางวิจิตรา เหตานุรักษ์ ผอ.สำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เรื่องถิ่นกำเนิดสินค้าผลประโยชน์ และการขยายโอกาสทางด้านตลาดกับเพื่อนบ้าน ซึ่งในปัจจุบัน เอกสารสำคัญด้านการค้าส่งออกไม่ต้องใช้ แต่ในอนาคต ถ้ามีการรวมภาคี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ไทยเองก็จะมีโอกาสในการลงทุนค้าขายร่วมกับประเทศต่างๆ ในอาเซียนมากขึ้น ดังนั้น การที่เราจะทำให้สินค้าของเราที่ขายให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ นั้น ได้รับรู้ว่าเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เพราะฉะนั้น จึงต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือเรียกว่า CO หรือในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันจะเรียกว่า อาติก้าฟอร์ม D คือผู้ประกอบการสามารถที่จะรับรองสินค้าที่จะขาย และผลิตขึ้นมาในประเทศไทย หรือผลิตขึ้นภายใต้กลุ่มประเทศอาเซียนโดยใช้อินวอยซ์ของตนเอง เพื่อป้องกันการแอบอ้างลิขสิทธิ์ในสินค้านั้นๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนได้รับทราบ และตระหนักถึงข้อมูลเหล่านี้ เพื่อนำเอาความรู้ไปปรับใช้ในต่างประเทศด้วย
ผอ.สำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศ กล่าวต่อว่า ทางสำนักบริหารการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะมุ่งมั่นบุกเบิกหาตลาดใหม่ๆ หรือประเทศคู่ค้าใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ และนักลงทุนของไทยได้ไปลงทุน เพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญ จะได้นำรายได้เข้าประเทศไทยมากขึ้น
