"คลัง-พาณิชย์" กระตุ้นเอกชนปรับตัวภายใต้กรอบอาเซียน "กิตติรัตน์" ยอมรับ ไทยถึงเวลาต้องเร่งปรับตัว พร้อมยก "พม่า" พลิกโฉมในช่วง 3 ปี
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาเชิงวิชาการ การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 โดยยอมรับว่า ตนเองอยากเรียกร้องให้นักธุรกิจไทยที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบริการควรหันไปลงทุนภายในกลุ่มของอาเซียนมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะตลาดอาเซียนจะมีมูลค่าการค้าการลงทุนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว หากไม่มีการปรับตัวอาจจะประสบปัญหาการค้าการลงทุน
"การเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้น ในปี 2015 หรือภายในอีก 3 ปี ตลาดอาเซียนจะกลายเป็นตลาดเดียวกัน ซึ่งจะมีมูลค่าทางการค้าการลงทุนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว"
ดังนั้น ประเทศไทยและอุตสาหกรรมไทยจะต้องเร่งปรับตัว โดยหากดูประเทศพม่าในวันนี้ถือว่ามีการปรับเปลี่ยนและแตกต่างไปจาก 3 ปีที่แล้วเป็นอย่างมาก ขณะที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นสมาชิกของ AEC หากไม่มีการปรับตัว ก็อาจจะประสบกับปัญหาการค้าการลงทุนได้
พร้อมกันนี้ ยังอยากให้ นักลงทุนและนักธุรกิจไทย ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบริการ ควรหันเข้ามาลงทุนภายในกลุ่มของอาเซียนให้เพิ่มมาก ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในกลุ่มของอาเซียน
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นอกจากกรอบอาเซียนแล้ว ยังมีความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน+3 และอาเซียน +6 ซึ่งภาคการค้าและการลงทุนจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ผู้ประกอบการไทยในหลายอุตสาหกรรมและหลายธุรกิจ ยังไม่เข้าใจการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรอย่างเต็มที่ จึงสั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดทำแผนการสัมมนา สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการ