บลจ. ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล ประเดิมไตรมาสแรก เข็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ "ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม" ชี้ให้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ เริ่มไอพีโอแล้ว ถึง 15 กุมภาพันธ์ นี้
นายเจิดพันธุ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม หรือ CIMB - PRINCIPAL iPROP มีมูลค่าโครงการที่ 1,500 ล้านบาท เริ่มไอพีโอแล้ว ถึง 15 กุมภาพันธ์ นี้
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภท Fund of funds มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากรายได้ที่มาจากค่าเช่า โดยผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น (Capital Gain) แล้วยังได้รับรายได้จากเงินปันผลหรือจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติอีกด้วย อีกทั้งผู้ลงทุนทุกประเภทได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี ผ่านกองทุน CIMB-Principal iPROP กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท และผู้ลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนและได้รับเงินคืนในระยะเวลาที่แน่นอน และสะดวกกว่าการลงทุนโดยตรงนอสังหาริมทรัพย์เป็นต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีสภาพคล่อง
"กองทุนนี้เป็นกองทุนประเภทการลงทุนฟันด์ออฟฟันด์ ที่จะเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 10 อสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 7 - 11% โดยคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 6 - 8%" นายเจิดพันธุ์ กล่าว
นายเจิดพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า กองทุน CIMB-PRINCIPAL iPROP เน้นจ่ายเงินปันผลแบบสม่ำเสมอ โดยมีการแบ่งชนิดของหน่วยลงทุนเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 1. หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และ 2. หน่วยลงทุนชนิดจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้ยังช่วยกระจายความเสี่ยงจากการกระจายการลงทุนมาในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพราะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปปันผลที่สม่ำเสมอ และราคาหน่วยลงทุนผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในหุ้น
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่ลงทุนในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ตึกออฟฟิสขนาดใหญ่ใจกลางเมือง หรือ เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ และต้องการสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีและรายได้ที่สม่ำเสมอ ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาถึงศักยภาพในการเติบโต อัตราการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ และสภาพคล่องของกองทุนที่ไปลงทุนเป็นสำคัญ
"บริษัทมองว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนกองทุนนี้ กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท และ ผู้ลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนและได้รับเงินคืนในระยะเวลาที่แน่นอน และสะดวกกว่าการลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์" นายเจิดพันธุ์ กล่าว
นายเจิดพันธุ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม หรือ CIMB - PRINCIPAL iPROP มีมูลค่าโครงการที่ 1,500 ล้านบาท เริ่มไอพีโอแล้ว ถึง 15 กุมภาพันธ์ นี้
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภท Fund of funds มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากรายได้ที่มาจากค่าเช่า โดยผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น (Capital Gain) แล้วยังได้รับรายได้จากเงินปันผลหรือจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติอีกด้วย อีกทั้งผู้ลงทุนทุกประเภทได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี ผ่านกองทุน CIMB-Principal iPROP กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท และผู้ลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนและได้รับเงินคืนในระยะเวลาที่แน่นอน และสะดวกกว่าการลงทุนโดยตรงนอสังหาริมทรัพย์เป็นต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีสภาพคล่อง
"กองทุนนี้เป็นกองทุนประเภทการลงทุนฟันด์ออฟฟันด์ ที่จะเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 10 อสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 7 - 11% โดยคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 6 - 8%" นายเจิดพันธุ์ กล่าว
นายเจิดพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า กองทุน CIMB-PRINCIPAL iPROP เน้นจ่ายเงินปันผลแบบสม่ำเสมอ โดยมีการแบ่งชนิดของหน่วยลงทุนเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 1. หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และ 2. หน่วยลงทุนชนิดจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้ยังช่วยกระจายความเสี่ยงจากการกระจายการลงทุนมาในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพราะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปปันผลที่สม่ำเสมอ และราคาหน่วยลงทุนผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในหุ้น
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่ลงทุนในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ตึกออฟฟิสขนาดใหญ่ใจกลางเมือง หรือ เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ และต้องการสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีและรายได้ที่สม่ำเสมอ ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาถึงศักยภาพในการเติบโต อัตราการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ และสภาพคล่องของกองทุนที่ไปลงทุนเป็นสำคัญ
"บริษัทมองว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนกองทุนนี้ กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท และ ผู้ลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนและได้รับเงินคืนในระยะเวลาที่แน่นอน และสะดวกกว่าการลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์" นายเจิดพันธุ์ กล่าว