บลจ. ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล เผยหุ้นไทยต่างชาติยังสนใจโตเพิ่มได้อีก แนะหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ พลังงาน สื่อสาร แจ่ม ขณะที่ทองคำเน้นแนะควรลงทุนระยะยาว ล่าสุดเตรียมเข็นพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์คาดไอพีโอต้นเดือนก.พ.นี้
นายเจษฎา สุขทิศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ. )ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า การปรับพอร์ตในปีนี้บริษัทมองภาพรวมของตลาดโลกไม่ค่อนดีนัก มีการเติบโตแต่โตช้า อย่างเวิร์ลแบงก์เองได้มีการประเมินการเติบโตในปีนี้ไว้เพื่อ 2.5% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ด้านฝั่งยุโรปเองแม้จะมีความผันผวนอยู่บ้างแต่คาดว่าน่าจะไม่หนักเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากแบงก์ชาติยุโรปมีการอัดฉีดสภาพคล่องด้านการเงินไว้แล้ว และในปีนี้เหตุการณ์ช็อกแบบแรง ๆ ด้านเศรษฐกิจไม่น่าจะเกิดขึ้น
ด้านการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเองต่างชาติยังให้ความสนใจอยู่ เนื่องจากว่าทิศทางการเติบโตยังดี เพราะปัญหาน้ำท่วมได้ผ่านพ้นไปแล้ว เราได้มีการปรับพอร์ตไว้แล้วที่ประมาณ 20 - 30%
ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ภาพรวมได้เปลี่ยนไปเยอะมาก เมื่อปีที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยได้มีการปรับเปลี่ยนขึ้นเป็นกว่า 10 ครั้ง ในปีนี้น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากการแข่งขันระดมเงินฝากแรง ๆ เหมือนปีที่ผ่านมาคงจะลดลง ส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ระยะยาวน่าจะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น
"ภาพการลงทุนในปีนี้ยังคงผันผวนอยู่ ควรจะมีการกระจายการลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอ อีกทั้งต้องสามารถจับต้องได้ เช่นผลตอบแทนที่ได้รับอาจจะเป็นเงินปันผลหรือการรับซื้อคืนอัตโนมัติ มันจะเป็นการช่วยลดความผันผวนได้" นายเจษฎา
นายเจษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้การลงทุนในหุ้นถือว่าเป็นบวก ส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์ดีขึ้นด้วย ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับอานิสงค์ รวมอาหาร และกลุ่มสื่อสารในปีนี้ก็น่าสนใจ เพราะกลุ่มนี้ไม่ว่าจะเป็นภาวะภัยธรรมชาติกลุ่มนี้ก็ยังสามารถดีอยู่ อีกทั้งในปี้นี้ กสทช. เองจะมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นส่งผลให้มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ทองคำเองในปีนี้เองมองเป็นบวกเช่นกัน แต่ต้องเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะให้ผลตอบแทนที่ดี เพราะถ้าเข้ามาลงทุนในระยะสั้นอาจจะเจอกับความผันผวนได้ บวกกับต้องมีการดูแลพอร์ตการลงทุนอย่างใกล้ชิด เพราะความผันผวนในช่วงระยะสั้นที่จะได้รับจะมากจากเศรษฐกิจโลก เป็นต้น
"การบริหารงานของบริษัทฯเราได้มีทีมการลงทุนในทุกอาเซียน และเป็นทีมเดียวกันในการบริหารงานจัดสรรด้านการลงทุน เช่นการลงทุนหุ้นจะเน้นการลงทุนแบบชิงลึก มีแนวโน้มที่ดีในการบริหารจัดสรรพอร์ต โดยในปีที่ผ่านมาเราจะมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละประเทศ โดยล่าสุดได้มีทีมผู้จัดการหุ้นของประเทศจีน ในเซี่ยงไฮ้ ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ บริษัทฯเน้นการลงทุนที่ให้ผลประกอบการที่ดี ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทจะมีกองทุนที่แปลกใหม่ และเป็นที่ต้องการของตลาดให้มากที่สุดเพื่อเป็นการตอบสนองแก่นักลงทุน" นายเจษฎา กล่าว
ด้านนายเจิดพันธุ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดไอพีโอกองทุนรวมพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์อีก 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม หรือ CIMB - PRINCIPAL iPROP ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจาก ก.ล.ต.
โดยกองทุนดังกล่าวมีขนาดมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท โดยจะเน้นรูปแบบการลงทุนฟันด์ออฟฟันด์ ที่จะเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 10 อสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 7 - 11% โดยคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 6 - 8%
ทั้งนี้กองทุนเน้นจ่ายเงินปันผลแบบสม่ำเสมอ โดยมีการแบ่งชนิดของหน่วยลงทุนเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 1. หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และ 2. หน่วยลงทุนชนิดจ่ายเงินปันผล
"กองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากรายได้ที่มาจากค่าเช่า ผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น (Capital Gain) แล้วยังได้รับรายได้จากเงินปันผลหรือจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติอีกด้วย อีกทั้งผู้ลงทุนทุกประเภทได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี ผ่านกองทุน CIMB-Principal iPROP" นายเจิดพันธุ์ กล่าว
สำหรับกองทุนดังกล่าวถือเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และต้องการสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีและรายได้ที่สม่ำเสมอจาการมุ่งลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย หรือตราสารของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาถึงศักยภาพในการเติบโต อัตราการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ และสภาพคล่องของกองทุนที่ไปลงทุนเป็นสำคัญ รวมถึงตราสารอื่นใดที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงเกี่ยวกับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อก่อให้เกิดรายได้ และผลประโยชน์ต่อกองทุนและผู้ลงทุนเป็นสำคัญ
