ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คลอดกองทุนตราสารหนี้ 1 ปี ล็อคยิลด์ 3.4% ในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ขายไอพีโอถึง 16 ม.ค. นี้ ด้าน บลจ. บัวหลวง ออก “บัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 2/12 ” อายุ 6 เดือน ชูผลตอบแทน 3.20% เริ่มไอพีโอแล้ว ถึง 17 มกราคมนี้
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล บริษัทในกลุ่มซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทเสนอขาย กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 1Y1 (CIMB-Principal EFI 1Y1) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ภาคธนาคาร และภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกองทุนจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ สำหรับผลตอบแทนของกองทุน CIMB-Principal EFI 1Y1 ประมาณการไว้ที่ประมาณ 3.4% ต่อปี เทียบเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำก่อนเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากที่ 4.00% ต่อปี โดยเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) วันที่ 12-16 มกราคม 2555
สำหรับกองทุน CIMB-Principal EFI 1Y1 เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำ ด้วยการลงทุนระยะเวลา 1 ปี โดยเฉพาะบุคคลธรรมดาที่ต้องการการลงทุนที่ผลตอบแทนไม่เสียภาษี ซึ่งกองทุนดังกล่าวยังป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท โดยผู้ที่สนใจ "กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 1Y1 (CIMB-Principal EFI 1Y1) สามารถจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 12-16 มกราคม 2555
ด้านรายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 2/12 หรือ BUALUANG FIXED INCOME - TERM FUND 2/12 (B-FIXTERM2/12) ซึ่งมีอายุประมาณ 6 เดือน ให้ผล ตอบแทนประมาณการที่ 3.20% ต่อปี โดยเริ่มไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 17 มกราคม 2554
ทั้งนี้กองทุน B-FIXTERM2/12 จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐประมาณ 31% เงินฝาก และตราสารสารสถาบันการเงินในประเทศอีก 20% เงินฝาก และตราสารหนี้สารหนี้ที่เป็นการลงทุนในต่างประเทศ 24% ตราสารหนี้ภาคเอกชน 24% และเงินฝากอีก 1%
โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศและตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยเลือกการลงทุนในตราสารหนี้ของกิจการที่มีความมั่นคงและมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ตามเงินลงทุนที่จะนำมาลงทุนกองทันนี้ควรเป็นเงินส่วนที่สามารถได้ตามอายุกองทุน
สำหรับกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 2/12 จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ และต่างประเทศ โดยส่วนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศ กองทุนจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลัง กองทุน ฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ออก ผู้รับรอง เป็นต้น
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ ตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงภาคเอกชน ที่เสนอขายในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการจัดอันดับ ณ วันที่ลงทุน ในระดับ INVESTMENT GRADE
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล บริษัทในกลุ่มซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทเสนอขาย กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 1Y1 (CIMB-Principal EFI 1Y1) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ภาคธนาคาร และภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกองทุนจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ สำหรับผลตอบแทนของกองทุน CIMB-Principal EFI 1Y1 ประมาณการไว้ที่ประมาณ 3.4% ต่อปี เทียบเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำก่อนเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากที่ 4.00% ต่อปี โดยเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) วันที่ 12-16 มกราคม 2555
สำหรับกองทุน CIMB-Principal EFI 1Y1 เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำ ด้วยการลงทุนระยะเวลา 1 ปี โดยเฉพาะบุคคลธรรมดาที่ต้องการการลงทุนที่ผลตอบแทนไม่เสียภาษี ซึ่งกองทุนดังกล่าวยังป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท โดยผู้ที่สนใจ "กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 1Y1 (CIMB-Principal EFI 1Y1) สามารถจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 12-16 มกราคม 2555
ด้านรายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 2/12 หรือ BUALUANG FIXED INCOME - TERM FUND 2/12 (B-FIXTERM2/12) ซึ่งมีอายุประมาณ 6 เดือน ให้ผล ตอบแทนประมาณการที่ 3.20% ต่อปี โดยเริ่มไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 17 มกราคม 2554
ทั้งนี้กองทุน B-FIXTERM2/12 จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐประมาณ 31% เงินฝาก และตราสารสารสถาบันการเงินในประเทศอีก 20% เงินฝาก และตราสารหนี้สารหนี้ที่เป็นการลงทุนในต่างประเทศ 24% ตราสารหนี้ภาคเอกชน 24% และเงินฝากอีก 1%
โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศและตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยเลือกการลงทุนในตราสารหนี้ของกิจการที่มีความมั่นคงและมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ตามเงินลงทุนที่จะนำมาลงทุนกองทันนี้ควรเป็นเงินส่วนที่สามารถได้ตามอายุกองทุน
สำหรับกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 2/12 จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ และต่างประเทศ โดยส่วนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศ กองทุนจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลัง กองทุน ฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ออก ผู้รับรอง เป็นต้น
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ ตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงภาคเอกชน ที่เสนอขายในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการจัดอันดับ ณ วันที่ลงทุน ในระดับ INVESTMENT GRADE
