“สตาร์แฟชั่น” เล็งบุกอาเซียนรับเปิดเออีซี เตรียมรีแบรนดิ้ง 2 แบรด์หลัก “ฮาร์ซาร์ด” กับ “การ์แบง” ทุ่มงบ 15 ล้านบาทลุย
นายสุกฤษ วารีราชอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สตาร์ แฟชั่น (2551) จำกัด ผู้นำเข้าและทำตลาดผลิตภัณฑ์แฟชั่นแบรนด์จากต่างประเทศ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 หรืออีก 3 ปีจากนี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะส่งออก และทำตลาดแบรนด์เสื้อผ้าของบริษัทฯ เองไปต่างประเทศ นอกเหนือจากการทำตลาดแบรนด์นำเข้าเสื้อผ้าทั้งหลายที่ดำเนินการอยู่ในไทย
“ตอนนี้คนก็พูดกันแต่ว่าเออีซีจะเปิดแล้ว สินค้าต่างประเทศในอาเซียนจะเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น แต่ทำไมสินค้าของเราเองจะไปทำตลาดในอาเซียนบ้างไม่ได้ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ในฟิลิปินส์ดีมานด์เสื้อผ้าแฟชั่นเยอะมาก แต่มีเฉพาะอินเตอร์แบรนด์ที่ทำตลาด ส่วนโลคัลแบรนด์แทบจะไม่มีเลย อีกทั้งดีไซน์แฟชั่นของไทยก็ไม่แพ้ใคร ดูแล้วมีโอกาสในการทำตลาดอย่างมาก”
เบื้องต้นจะใช้งบ 15 ล้านบาทในการทำตลาดและปรับภาพลักษณ์แบรนด์ หรือรีแบรนดิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญต่อ 2 แบรนด์หลักของเราอย่าง “การ์แบง” ซึ่งอยู่ในตลาดมานานกว่า 24 ปี และแบรนด์ “ฮาร์ซาร์ด” อยู่ในตลาดมานานกว่า 28 ปี ทั้งการออกคอลเลกชันใหม่ และเพิ่มความถี่ในการออกคอลเลกชันใหม่และออกเป็นเอ็กซ์คลูซีฟด้วย และทำตลาดมากขึ้น
รวมทั้งกระจายสินค้าไปยังช่องทางจำหน่ายในต่างจังหวัดมากขึ้น ตั้งเป้าหมายภายในปี 2556 จะต้องมีสินค้าสองแบรนด์นี้กระจายครบทุกจังหวัดในช่องทางหลักๆ และเมื่อถึงปี 2558 ก็มีความพร้อมที่จะออกตลาดต่างประเทศได้ โดยจะเริ่มที่แบรนด์การ์แบงก่อนในเดือนหน้า และตามด้วยแบรนด์ฮาร์ซาร์ดเดือนตุลาคม
เบื้องต้นสนใจที่ประเทศฟิลิปปินส์กับสิงคโปร์ก่อน โดยเฉพาะที่ฟิลิปปินส์ บริษัทฯ มีสายสัมพันธ์กับทางผู้ค้าที่ได้ไลเซนส์ในการทำตลาดรองเท้าฟิตฟลอปในการเข้าบุกตลาดเพราะรู้จักตลาดเป็นอย่างดี
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 50% จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 1,600 ล้านบาท จากจำนวนสินค้าเสื้อผ้า และรองเท้า เครื่องประดับ รวม 17 แบรนด์
นายสุกฤษ วารีราชอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สตาร์ แฟชั่น (2551) จำกัด ผู้นำเข้าและทำตลาดผลิตภัณฑ์แฟชั่นแบรนด์จากต่างประเทศ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 หรืออีก 3 ปีจากนี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะส่งออก และทำตลาดแบรนด์เสื้อผ้าของบริษัทฯ เองไปต่างประเทศ นอกเหนือจากการทำตลาดแบรนด์นำเข้าเสื้อผ้าทั้งหลายที่ดำเนินการอยู่ในไทย
“ตอนนี้คนก็พูดกันแต่ว่าเออีซีจะเปิดแล้ว สินค้าต่างประเทศในอาเซียนจะเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น แต่ทำไมสินค้าของเราเองจะไปทำตลาดในอาเซียนบ้างไม่ได้ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ในฟิลิปินส์ดีมานด์เสื้อผ้าแฟชั่นเยอะมาก แต่มีเฉพาะอินเตอร์แบรนด์ที่ทำตลาด ส่วนโลคัลแบรนด์แทบจะไม่มีเลย อีกทั้งดีไซน์แฟชั่นของไทยก็ไม่แพ้ใคร ดูแล้วมีโอกาสในการทำตลาดอย่างมาก”
เบื้องต้นจะใช้งบ 15 ล้านบาทในการทำตลาดและปรับภาพลักษณ์แบรนด์ หรือรีแบรนดิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญต่อ 2 แบรนด์หลักของเราอย่าง “การ์แบง” ซึ่งอยู่ในตลาดมานานกว่า 24 ปี และแบรนด์ “ฮาร์ซาร์ด” อยู่ในตลาดมานานกว่า 28 ปี ทั้งการออกคอลเลกชันใหม่ และเพิ่มความถี่ในการออกคอลเลกชันใหม่และออกเป็นเอ็กซ์คลูซีฟด้วย และทำตลาดมากขึ้น
รวมทั้งกระจายสินค้าไปยังช่องทางจำหน่ายในต่างจังหวัดมากขึ้น ตั้งเป้าหมายภายในปี 2556 จะต้องมีสินค้าสองแบรนด์นี้กระจายครบทุกจังหวัดในช่องทางหลักๆ และเมื่อถึงปี 2558 ก็มีความพร้อมที่จะออกตลาดต่างประเทศได้ โดยจะเริ่มที่แบรนด์การ์แบงก่อนในเดือนหน้า และตามด้วยแบรนด์ฮาร์ซาร์ดเดือนตุลาคม
เบื้องต้นสนใจที่ประเทศฟิลิปปินส์กับสิงคโปร์ก่อน โดยเฉพาะที่ฟิลิปปินส์ บริษัทฯ มีสายสัมพันธ์กับทางผู้ค้าที่ได้ไลเซนส์ในการทำตลาดรองเท้าฟิตฟลอปในการเข้าบุกตลาดเพราะรู้จักตลาดเป็นอย่างดี
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 50% จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 1,600 ล้านบาท จากจำนวนสินค้าเสื้อผ้า และรองเท้า เครื่องประดับ รวม 17 แบรนด์
