“เอ็มบีเค” ปรับทัพรับเออีซี เปลี่ยนโลโก้ใหม่สร้างความชัดเจนทางธุรกิจ ทุ่ม 3,000 ล้านบาทลุยหนัก 4 ธุรกิจ พร้อมเพิ่มสัดส่วนรายได้ “โรงแรม-อสังหาริมทรัพย์-การเงิน-ศูนย์การค้า” เล็งผนึกพันธมิตรรุกต่างประเทศ
นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะผลักดันธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ การเงิน และศูนย์การค้าให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอีก จากปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้แต่ละกลุ่มต่างกัน ดังนี้
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วนรายได้ 5-6% ต้องการเพิ่มให้ได้ 10% ภายในปีหน้า ธุรกิจการเงิน มีสัดส่วนรายได้ 10% ต้องการเพิ่มให้ได้ 15% ในปีหน้า ธุรกิจโรงแรม อยู่ที่ 12% ต้องการเพิ่มเป็น 18% และธุรกิจศูนย์การค้ามีรายได้อยู่ที่ 30% ส่วนอีก 4 ธุรกิจที่เหลือมาจาก ธุรกิจข้าว 30% กอล์ฟ 3% ธุรกิจการเงิน ธุรกิจสนับสนุน และธุรกิจอื่นๆ
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ปรับแบรนด์เอ็มบีเค กรุ๊ป โดยจัดกลุ่มธุรกิจออกเป็น 8 ธุรกิจในเครือให้อยู่ในทิศทางเดียวกันทั้งหมด รวมทั้งต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภคทราบว่าธุรกิจของเอ็มบีเคมีอะไรบ้างเพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากที่สุด โดยใช้สัญลักษณ์ V of Victory ซึ่งตัว วี คือ สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ เส้นสายของสัญลักษณ์นี้ตวัดขึ้น สื่อถึงการเจริญเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง
“ตอนนี้คนส่วนใหญ่ทั้งคนไทย และต่างชาติจะรู้จักเอ็มบีเคว่าทำธุรกิจศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เท่านั้นประมาณ 60-70% ทั้งๆ ที่เรามีธุรกิจอื่นๆ อีก โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจากนี้อยากให้คนไทยและต่างชาติรู้จักเอ็มบีเคมากขึ้นว่ามีธุรกิจอะไรบ้างในเครือของเรา อีกทั้งเป็นการปรับเปลี่ยนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 ที่บริษัทพร้อมขยายธุรกิจไปต่างประเทศ และพร้อมเปิดรับพันธมิตรจากต่างประเทศด้วย ซึ่งหากการไปลงทุนต่างประเทศจะอยู่ในรูปแบบการหาพันธมิตรทางธุรกิจ”
สำหรับแผนลงทุนช่วงปี 2555-2556 บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจหลักในเครือ แบ่งเป็น ปรับปรุงศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ให้ทันสมัยมากขึ้นประมาณ 500 ล้านบาท พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณถนนรัชดาภิเษก 1,000 ล้านบาท เปิดคอนโดมิเนียมบริเวณคอมมูมิตีมอลล์ เดอะไนน์ 500 ล้านบาท ลงทุนคอมมูนิตีมอลล์แห่งใหม่ข้างศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค 500 ล้านบาท และลงทุนขยายธุรกิจสินเชื่อ 500 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อยู่ระหว่างพัฒนา 2 โครงการใหม่ ได้แก่ คอนโดมิเนียม บริเวณถนนรัชดาภิเษก 2 อาคาร ความสูง 30 และ 39 ชั้น มีมูลค่าโครงการขายรวม 2,500 ล้านบาท ทยอยลงทุนต่อเนื่อง 2 ปี และจะเริ่มเปิดขายกลางปี 57 ส่วนคอนโดมิเนียมบริเวณเดอะไนน์ มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท ความสูง 8 ชั้น จะเริ่มเปิดขายในช่วงกลางปี 56 ส่วนคอมมูนิตีมอลล์บริเวณข้างศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค คาดว่าจะเริ่มลงทุนก่อสร้างภายในไตรมาส 4 นี้ และมีแผนเปิดให้บริการในต้นปี 57
ส่วนรายได้รวมของบริษัทฯในสิ้นปี 2555 คาดว่าจะมีประมาณ 9,000 ล้านบาท เติบโต 6% จากปี 2554 ที่ มีรายได้ประมาณ 8,500 ล้านบาท เติบโต 5%
นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะผลักดันธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ การเงิน และศูนย์การค้าให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอีก จากปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้แต่ละกลุ่มต่างกัน ดังนี้
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วนรายได้ 5-6% ต้องการเพิ่มให้ได้ 10% ภายในปีหน้า ธุรกิจการเงิน มีสัดส่วนรายได้ 10% ต้องการเพิ่มให้ได้ 15% ในปีหน้า ธุรกิจโรงแรม อยู่ที่ 12% ต้องการเพิ่มเป็น 18% และธุรกิจศูนย์การค้ามีรายได้อยู่ที่ 30% ส่วนอีก 4 ธุรกิจที่เหลือมาจาก ธุรกิจข้าว 30% กอล์ฟ 3% ธุรกิจการเงิน ธุรกิจสนับสนุน และธุรกิจอื่นๆ
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ปรับแบรนด์เอ็มบีเค กรุ๊ป โดยจัดกลุ่มธุรกิจออกเป็น 8 ธุรกิจในเครือให้อยู่ในทิศทางเดียวกันทั้งหมด รวมทั้งต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภคทราบว่าธุรกิจของเอ็มบีเคมีอะไรบ้างเพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากที่สุด โดยใช้สัญลักษณ์ V of Victory ซึ่งตัว วี คือ สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ เส้นสายของสัญลักษณ์นี้ตวัดขึ้น สื่อถึงการเจริญเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง
“ตอนนี้คนส่วนใหญ่ทั้งคนไทย และต่างชาติจะรู้จักเอ็มบีเคว่าทำธุรกิจศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เท่านั้นประมาณ 60-70% ทั้งๆ ที่เรามีธุรกิจอื่นๆ อีก โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจากนี้อยากให้คนไทยและต่างชาติรู้จักเอ็มบีเคมากขึ้นว่ามีธุรกิจอะไรบ้างในเครือของเรา อีกทั้งเป็นการปรับเปลี่ยนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 ที่บริษัทพร้อมขยายธุรกิจไปต่างประเทศ และพร้อมเปิดรับพันธมิตรจากต่างประเทศด้วย ซึ่งหากการไปลงทุนต่างประเทศจะอยู่ในรูปแบบการหาพันธมิตรทางธุรกิจ”
สำหรับแผนลงทุนช่วงปี 2555-2556 บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจหลักในเครือ แบ่งเป็น ปรับปรุงศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ให้ทันสมัยมากขึ้นประมาณ 500 ล้านบาท พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณถนนรัชดาภิเษก 1,000 ล้านบาท เปิดคอนโดมิเนียมบริเวณคอมมูมิตีมอลล์ เดอะไนน์ 500 ล้านบาท ลงทุนคอมมูนิตีมอลล์แห่งใหม่ข้างศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค 500 ล้านบาท และลงทุนขยายธุรกิจสินเชื่อ 500 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อยู่ระหว่างพัฒนา 2 โครงการใหม่ ได้แก่ คอนโดมิเนียม บริเวณถนนรัชดาภิเษก 2 อาคาร ความสูง 30 และ 39 ชั้น มีมูลค่าโครงการขายรวม 2,500 ล้านบาท ทยอยลงทุนต่อเนื่อง 2 ปี และจะเริ่มเปิดขายกลางปี 57 ส่วนคอนโดมิเนียมบริเวณเดอะไนน์ มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท ความสูง 8 ชั้น จะเริ่มเปิดขายในช่วงกลางปี 56 ส่วนคอมมูนิตีมอลล์บริเวณข้างศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค คาดว่าจะเริ่มลงทุนก่อสร้างภายในไตรมาส 4 นี้ และมีแผนเปิดให้บริการในต้นปี 57
ส่วนรายได้รวมของบริษัทฯในสิ้นปี 2555 คาดว่าจะมีประมาณ 9,000 ล้านบาท เติบโต 6% จากปี 2554 ที่ มีรายได้ประมาณ 8,500 ล้านบาท เติบโต 5%
