“สุดาพร จันทร์วัฒนากุล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เผยกลยุทธ์รุกสินเชื่อบุคคลในช่วงที่เหลือของปี ลั่นแท็กทีมแบงก์กรุงไทยอาศัยขยายฐานลูกค้า ขณะที่ไตรมาสแรกยอดต่ำกว่าเป้า 10%
ภาพรวมสินเชื่อบุคคลในปีนี้
น่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยในปี 2554 สินเชื่อบุคคลทั้งระบบมีมูลค่ารวม 213,236 ล้านบาท เติบโตเท่ากับ 13.73% ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งในส่วนของเคทีซีก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ในปีก่อนมียอดสินเชื่อบุคคล 12,465 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 12,415 ล้านบาทเล็กน้อย แต่เติบโตจากปีก่อนหน้า 11.93% มียอดลูกค้าใหม่ 93,000 ราย ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 100,000 ราย หรือคิดเป็น 7% และมีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) เท่ากับ 5.97%
สำหรับในปีนี้เคทีซีตั้งเป้ามียอดลูกค้าใหม่ 102,000 ราย เพิ่มขึ้น 10% มียอดสินเชื่อรวม 13,000 ล้านบาท เติบโต 4.29% และรักษาระดับมาร์เกตแชร์ให้ได้ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 6% โดยประมาณ
ด้านภาวะการแข่งขันก็น่าจะรุนแรงขึ้น จะเห็นได้ว่ามีธนาคารพาณิชย์เข้ามาเล่นในตลาดนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะทำให้การแข่งขันด้านราคามีความรุนแรงขึ้นด้วย
“นอนแบงก์อย่างเราคงจะไปสู้เรื่องราคาลำบาก โดยเฉพาะกับแบงก์พาณิชย์ เพราะ Cost of Fund ของเรามากกว่า ก็ต้องพยายามใช้ด้านบริการกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เข้ามาช่วยอีกทาง”
กลยุทธ์ที่เคทีซีจะใช้ในปีนี้
ก็จะเน้นความร่วมมือกับบริษัทแม่ คือธนาคารกรุงไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการขยายฐานลูกค้าร่วมกัน เนื่องจากลูกค้าของธนาคารกรุงไทยเป็นลูกค้าที่ดี ทางธนาคารได้สกรีนมาแล้วรอบหนึ่ง และมีสาขากว่า 600 แห่ง จะช่วยกระจายผลิตภัณฑ์ได้มาก โดยจะทำในลักษณะ cross sale อย่างถ้าทางธนาคารปล่อยกู้ซื้อบ้าน เคทีซีก็จะเข้าไปเสนอสินเชื่อบุคคลเพื่อเป็นค่าตกแต่งหรืออื่นๆ เป็นต้น ซึ่งก็จะดูไม่ให้ซ้ำซ้อนกับสินเชื่อบุคคลที่ธนาคารกรุงไทยมีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันช่องทางการหาลูกค้าใหม่ของเคทีซีจะมาจากธนาคารกรุงไทย 35% ขายตรง 35% และอื่นๆ 30%
ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
รวมๆ แล้วก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 10% โดยในส่วนของสินเชื่อพร้อมใช้มียอดอนุมัติไปแล้ว 21,000 ราย วงเงิน 766 ล้านบาท สินเชื่ออเนกประสงค์อนุมัติไปแล้ว 1,900 ราย วงเงินสินเชื่อ 97 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากในช่วงต้นปียังมีผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุอุทกภัย ทำให้ประชาชนยังไม่กล้าที่จะใช้จ่ายมากนัก
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในไตรมาส 2 นี้สินเชื่อบุคคลจะขยายตัวได้ดีขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟ ค่าพาหนะต่างๆ รวมถึงเป็นช่วงของการเปิดเทอม จึงน่าจะทำให้ยอดใช้จ่ายสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยปัจจุบันมียอดการใช้สินเชื่อพร้อมใช้เฉลี่ย 8,000 บาทต่อเดือน สินเชื่ออเนกประสงค์ 9,000 บาทต่อเดือน
ขณะที่อัตราผิดนัดชำระหนี้ของสินเชื่อบุคคล ณ สิ้นไตรมาสแรกลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.95% จากช่วงปลายปีอยู่ที่ระดับ 6.97% และต่ำกว่าทั้งระบบเฉลี่ยที่ระดับ 7.8%
