ของฟรีไม่มีในโลก “เรกูเลเตอร์” กางแผนขึ้นค่าเอฟทีงวดละ 8.95 สตางค์ต่อหน่วย เริ่มงวดหน้าจนถึงสิ้นปี 2556 รวม 4 งวดซึ่งยังไม่รวมกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่จะมีปรับขึ้นลงอีกในอนาคต เพื่อทยอยจ่ายหนี้คืน กฟผ.หลังรับภาระแทนมารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นางพัลลภา เรืองรอง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า การปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) ในงวดหน้า (ก.ย.-ธ.ค. 2555) คงไม่สามารถตรึงค่าไฟได้อีกเนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไม่มีความสามารถจะแบกรับภาระได้เพิ่มและอาจไม่สามารถขยายการลงทุนได้ เพราะที่ผ่านมาได้รับภาระเอฟทีแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท ดังนั้น ภาระดังกล่าวจะทยอยเรียกคืนจากประชาชนงวดละ 8.59 สตางค์ต่อหน่วยจนถึงสิ้นปี 2556 หรือรวมทั้งสิ้น 4 งวด
“การปรับขึ้นเอฟทีอีก 8.59 สตางค์ต่อหน่วยต่องวดดังกล่าวยังไม่รวมการคำนวณต้นทุนอื่นๆ เช่น อัตราแลกเปลี่ยน ราคาเชื้อเพลิงย้อนหลัง 6 เดือนหากเชื้อเพลิงมีราคาแพงก็จะต้องบวกเพิ่มเข้าไป ซึ่งการตรึงค่าไฟระยะยาวเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดประชาชนจะต้องจ่ายเพิ่มอยู่ดี” นางพัลลภากล่าว
นอกจากนี้ เรกูเลเตอร์อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนการคำนวณโครงสร้างค่าไฟฐานใหม่ ให้เริ่มมีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุดภายในเดือน กรกฎาคม 2556 ซึ่งในหลักการตัวแปรที่จะนำมาใช้คำนวณค่าไฟจะส่งผลให้ประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายค่าไฟลดลง โดยเฉพาะรายจ่ายจากการบริการชำระค่าไฟฟ้า ที่ปัจจุบันพบว่ามีการเรียกเก็บซ้ำซ้อน จากที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)เรียกเก็บค่าบริการ 38.22 บาทต่อเดือน แต่ประชาชนเมื่อไปชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น จะถูกคิดค่าบริการเพิ่มอีก 10-15 บาทต่อครั้ง ก็จะต้องเรียกทั้งสองการไฟฟ้ามาหารือว่าจะรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มนี้ไปได้อย่างไร