“รถร่วม-มินิบัส” ยินดีตรึงค่าโดยสาร ยื่นเงื่อนไขลดเก็บค่าตอบแทน-เปลี่ยนรถสีชมพู

“คมนาคม” พิจารณาลดค่าโดยสารวันนี้ หลังดีเซลปรับตัวลดลงต่ำกว่า 30 บาท พร้อมเชิญ สนพ.ป้อนข้อมูลทิศทางราคาน้ำมัน ขณะที่ “รถร่วม-มินิบัส” ยินดีตรึงค่าโดยสาร หากถูกร้องขอ แต่ต้องมีมาตรการช่วยเหลือ ทั้งการลดจ่ายค่าตอบแทน รถธรรมดา 35 บาท รถปรับอากาศ 60 บาท และให้ยกเลิกมาตรการเปลี่ยนรถเป็นสีชมพูซึ่งจะมีผลสิงหาคมนี้ เพราะไม่มีความจำเป็นทำให้ต้นทุนเพิ่มคันละ 3-4 แสนบาท พร้อมร้องเงินชดเชยน้ำท่วม

นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางได้เชิญสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เข้าร่วมหารือ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาพลังงานในอนาคต หลังจากราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงอยู่ที่ 29.83 ต่อลิตร ประกอบกับรัฐบาลได้ตรึงราคาก๊าซธรรมชาติต่ออีก 3 เดือนเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาค่าโดยสาร

ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันยังมีการเปลี่ยนแปลงทุกสัปดาห์ กระทรวงคมนาคมอาจชะลอการปรับลดค่าโดยสาร แต่หากราคาน้ำมันหยุดนิ่งอีกระยะก็อาจพิจารณาปรับลด

ด้านนายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เชิญผู้ประกอบการรถร่วมฯ มาเจรจาค่าโดยสารในสัปดาห์หน้า เพื่อขอความร่วมมือในการตรึงอัตราค่าโดยสารในส่วนของรถร่วม ขสมก. และรถมินิบัสปรับอากาศอีก 3 เดือน หลังจากที่ได้หารือก่อนหน้านี้จะปรับค่าโดยสารอีก 1 บาทในวันที่ 16 มิถุนายน 2555 นี้ เพราะว่าราคาเชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) ยังไม่ถึง 9.50 บาทต่อกิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการก็พร้อมให้ความร่วมมือหากรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น ลดค่าตอบแทนที่ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ต้องจ่าย คือ รถธรรมดาวันละ 35 บาทต่อคัน รถปรับอากาศวันละ 60 บาทต่อคัน รวมถึงยกเลิกมาตรการเปลี่ยนสีรถจากสีขาวเป็นสีชมพูซึ่งจะมีผลบังคับใช้เดือนสิงหาคม 2555 นี้ ซึ่งผู้ประกอบการฯ เห็นว่าไม่มีความจำเป็น และทำให้มีต้นทุนเพิ่มคันละ 3-4 แสนบาท

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการฯ จะเสนอให้พิจารณาการพักชำระหนี้ในส่วนของค่าตอบแทน ให้รัฐบาลชดเชยให้ผู้ประกอบการฯ ที่ต้องหยุดเดินรถช่วงน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณา หากรัฐบาลสามารถออกมาตรการช่วยเหลือได้ผู้ประกอบการก็ยินดีตรึงอัตราค่าโดยสารออกไปอีก