“ชัชชาติ” จับเข่าคุยรถร่วมฯ ขสมก.เบรกขึ้นค่าโดยสาร 16 มิถุนายน รอ NGV 9.50 บาท/กก.พร้อมสั่งบอร์ด ขสมก.พิจารณาค่าขาและพักหนี้ 500 ลบ.ช่วยลดผลกระทบ บอร์ดขนส่งฯ นัดถก 23 พฤษภาคม พร้อม สนพ.ประเมินทิศทางราคาดีเซลก่อนเคาะลดค่าโดยสาร
วันนี้ (22 พ.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการรถร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รถสองแถว ว่าได้ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรถหมวด 1 คือ รถร่วมฯ ขสมก.และรถมินิบัสปรับอากาศตรงกันแล้วว่า ในวันที่ 16 มิถุนายน 2555 จะยังไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารแต่อย่างใด โดยจะมีการปรับขึ้น 1 บาทได้เมื่อราคาก๊าซ NGV อยู่ที่ 9.50 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนรถที่ใช้น้ำมันดีเซลนั้น แม้ว่าขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลลดลงแต่ยังไม่สามารถลดค่าโดยสารได้ทันที โดยได้สั่งให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางเร่งประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการปรับลดค่าโดยสารให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เพราะการปรับลดค่าโดยสารนั้นมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบ ต้องมองให้ครบทุกมิติ รวมถึงต้องดูแนวโน้มราคาน้ำมันในอนาคต
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ขสมก.เสนอให้ภาครัฐช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียม (ค่าขา) ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.เรียกเก็บโดยให้ส่วนลดสำหรับรถร้อนเหลือ 35 บาท/คัน/วัน รถแอร์ 60 บาท/คัน/วันต่อไป เนื่องจากจะครบกำหนดให้ส่วนลดในเดือนสิงหาคมนี้ รวมถึงการขอพักชำระหนี้ค่าขาประมาณ 500 ล้านบาทด้วย ซึ่งได้สั่งการไปยังนายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก. ให้พิจารณาให้ผู้ประกอบการเพื่อลดผลกระทบแล้ว
“ต้องเห็นใจรถร่วมฯ ขสมก.ที่ได้รับผลกระทบช่วงน้ำท่วมเหมือนกันต้องหยุดวิ่งไม่มีรายได้มาจ่ายค่าขา แต่เรื่องจะช่วยเหลือได้มากน้อยแค่ไหนเป็นอำนาจของบอร์ด ขสมก. ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการฯ ให้ความร่วมมือไม่มีการหยุดเดินรถเพื่อต่อรอง ส่วนกระทรวงคมนาคมพร้อมรับฟังปัญหาและช่วยเหลืออย่างเต็มที่” นายชัชชาติกล่าว
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังต้องทราบความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการเดินรถของ ขสมก.ภายหลังจากที่มีการจัดซื้อรถ NGV จำนวน 3,183 คันเข้ามาวิ่งให้บริการ ซึ่งอาจจะกระทบต่อการเดินรถของเอกชน ดังนั้นในสัปดาห์หน้าจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ขสมก.และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ประชุมร่วมกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนและให้เอกชนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างถูกต้อง
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง กล่าวว่า ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้จะประชุมคณะกรรมการฯ และจากที่ราคาน้ำมันดีเซลมีการเปลี่ยนแปลง จะเชิญสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ร่วมให้ข้อมูลทิศทางราคาน้ำมันที่ชัดเจนก่อนที่จะพิจารณาค่าโดยสารต่อไป
นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่า ผู้ประกอบการเป็นหนี้ค่าขาระหว่างปี 48-50 ประมาณ 500 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) โดยขอพักชำระหนี้อย่างน้อย 3 ปี และขอยกเว้นค่าขาในช่วงน้ำท่วมปลายปี 54 ประมาณ 3-4 เดือนเพราะส่วนใหญ่รถไม่สามารถวิ่งให้บริการได้ ทั้งนี้ ต้นทุนของผู้ประกอบการไม่ใช่ค่าก๊าซ NGV อย่างเดียว แต่มีทั้งค่าแรง ค่าอะไหล่ที่ปรับขึ้นไปก่อนแล้วที่ต้องนำมาคิดด้วย
ด้านนายฉัตรไชย ภู่อารีย์ ประธานชมรมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางหมวด 4 เอกชน กรุงเทพฯ (รถสองแถว) กล่าวว่า เห็นด้วยกับกระทรวงคมนาคมที่ให้ประเมินราคาน้ำมันก่อนพิจารณาลดค่าโดยสาร เพราะดีเซลลดลงเพียง 17 สต.ต่อลิตรเท่านั้น ถ้าจะลดค่าโดยสารลงเลยถ้าน้ำมันขึ้นไปเกิน 30 บาทต่อลิตรก็ต้องขึ้นค่าโดยสารอีก ประชาชนจะสับสนได้
