กนอ.แจ้งข่าวดีเร็วๆ นี้เงินอุดหนุนจากภาครัฐ 2 ใน 3 เพื่อสร้างคันกั้นน้ำถาวรรอบนิคมอุตสาหกรรมจะได้ข้อสรุป หลังสำนักงบประมาณแจ้งไม่ต้องผ่านกระบวนการตามระเบียบราชการที่จะทำให้เกิดความล่าช้าและยุ่งยาก
นายสมคิด แท่นวัฒนกุล รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (กนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณได้แจ้งถึงความชัดเจนเกี่ยวกับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ 2 ใน 3 ของเงินลงทุนสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรรอบนิคมอุตสาหกรรมที่ประสบภาวะน้ำท่วมแล้วว่า เงินดังกล่าวสามารถผ่านมายังกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อจัดสรรให้เอกชนได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการตามระเบียบราชการแต่อย่างใด
“เร็วๆ นี้น่าจะมีข่าวดีกับเงินสนับสนุนดังกล่าวที่มีความชัดเจนถึงขั้นตอนปฏิบัติแล้ว เพราะก่อนหน้านี้หลายฝ่ายกังวลว่าจะต้องผ่านระเบียบราชการ แต่เมื่อสำนักงบประมาณยืนยันมาว่าเป็นเงินอุดหนุนไม่จำเป็นต้องทำตามระเบียบราชการ เช่น การเปิดประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรืออีออกชัน ฯลฯ เพราะจะล่าช้าและยุ่งยากมาก กรณีดังกล่าวก็จะคล้ายกับการรับเงินสนับสนุนของมูลนิธิ” นายสมคิดกล่าว
สำหรับการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ.ที่เสี่ยงจะประสบภาวะน้ำท่วม 6 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมบางพลี นิคมอุตสาหกรรมบางปู นิคมอุตสาหกรรมบางชัน นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5,400 ล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้างคาดว่าจะเสร็จภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ และจะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคม 55 เช่นเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมที่ประสบภาวะน้ำท่วม
ทั้งนี้ กนอ.จะยื่นขอกู้จากธนาคารออมสินที่มีวงเงินรวม 1.5 หมื่นล้านบาทในการสนับสนุนการก่อสร้างคันกั้นน้ำถาวรรอบนิคมอุตสาหกรรม ที่ขณะนี้ธนาคารออมสินรอข้อสรุปราคากลาง เบื้องต้นคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นประธาน ได้ข้อสรุปแล้วและเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในเร็วๆ นี้
นายสมคิดยังกล่าวถึงการดำเนินงานโครงการ “นิคมอุตสาหกรรมสีขาว” ว่า เป็นการผลักดันนิคมฯ ไปสู่การเป็นสถานประกอบการสีขาวปลอดยาเสพติด ซึ่งในปี 2555 ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโครงการโดยผลักดันให้นิคมฯ ที่เปิดดำเนินการแล้ว 36 แห่งทั่วประเทศซึ่งมีผู้ประกอบการประมาณ 3,000 ราย จำนวนแรงงาน 530,000 คน ในการก้าวไปสู่สังคมที่ปลอดยาเสพติดภายในปี 2556