ASTVผู้จัดการรายวัน-"อุตฯ"เร่งผู้ประกอบการนิคมฯ และเขตประกอบการที่ถูกน้ำท่วมสร้างคันกั้นน้ำถาวรให้เสร็จภายใน 31 ส.ค. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน หลังผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังกังวลทั้งปัญหาการเงินและระยะเวลาในการสร้างเขื่อนที่จำกัด จับตาผู้พัฒนาฯ บางรายปั่นตัวเลขลงทุนทำเขื่อนโอเว่อร์หวังใช้งบรัฐหนุน 2 ใน 3
ม.ร.ว พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และสวนอุตสาหกรรมโรจนะ วานนี้ (14ก.พ.) ว่า จากการตรวจเยี่ยมนิคมฯ เขตประกอบการ และสวนอุตสาหกรรมที่ประสบภาวะน้ำท่วมที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการมีความกังวลใจใน 4 ประเด็นได้แก่ 1.กังวลว่าจะมีความพร้อมด้านการเงินที่จะสนับสนุนจากธนาคารออมสินเพื่อสร้างคันกั้นน้ำถาวร 2.รายละเอียดการสนับสนุนเงินจากรัฐ 2ใน 3 ในการสร้างเขื่อนกันน้ำ 3.ความพร้อมของระบบคมนาคมหรือโลจิสติกส์เมื่อน้ำท่วมภายนอก และ 4.ระยะเวลาสร้างเขื่อนมีจำกัดซึ่งจะต้องสิ้นสุด 31 ส.ค.2555
“กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานกับทุกภาคส่วน และพยายามที่จะเร่งรัดให้การก่อสร้างเขื่อนเป็นไปตามแผน โดยยอมรับว่าส่วนของสหรัตนนครนั้นจะเริ่มช้าสุด 1 เม.ย.2555 ซึ่งจะติดตามใกล้ชิด แต่นิคมฯ อื่นๆ ได้ทยอยเริ่มแล้ว หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เราก็มั่นใจว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้“รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
นายณัฐพล ณัฐฎสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานฟื้นฟูนิคมฯ สหรัตนนคร กล่าวว่า ผู้พัฒนาฯ ได้เสนอแผนที่จะลงทุนสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรระยะทาง 10 ก.ม. ลงทุน 1,000 ล้านบาท ซึ่งคงจะต้องพิจารณารายละเอียดว่าเป็นตัวเลขการลงทุนที่สูงเกินไปหรือไม่ เนื่องจากหากสูงเกินไป ก็อาจมีผลต่อการอนุมัติเงินกู้จากธนาคารออมสินได้
“ประเมินไว้ก่อนหน้านี้อยู่ที่กิโลเมตรละ 30 ล้านบาท แต่เขื่อนดินเก่าคงต้องปรับใหม่ให้แข็งแรงขึ้น ส่วนนี้จะต้องลงทุนเพิ่มอีกรวมแล้วก็น่าจะไม่ถึง 1,000 ล้านบาท”นายณัฐพลกล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการติดตามตัวเลขการลงทุนของแต่ละนิคมฯ ในการสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรอย่างใกล้ชิด เพราะบางรายเริ่มมีการปั่นตัวเลขการลงทุนเกินความจริง เพราะเห็นว่ารัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนวงเงินให้เปล่าในการสร้างเขื่อน 2ใน 3 ของเงินลงทุน
นายยาสุโนนริ ซาคูไร ประธานบริษัททีเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตเบาะ และแผงประตูรถยนต์ป้อนให้กับบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ซึ่งปีที่ผ่านมา ประสบภาวะน้ำท่วมจนทำให้โรงงานต้องหยุดกิจการ แต่ล่าสุดเรี่มนำเข้าเครื่องจักรมาติดตั้งใหม่แล้ววงเงินลงทุน 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ 1 มี.ค.2555 โดยคาดหวังว่านิคมฯ จะมีระบบป้องกันน้ำท่วม เพราะหากท่วมซ้ำอีกคงจะต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังพื้นที่อื่น แต่ยังคงยืนยันที่ไทย
ม.ร.ว พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และสวนอุตสาหกรรมโรจนะ วานนี้ (14ก.พ.) ว่า จากการตรวจเยี่ยมนิคมฯ เขตประกอบการ และสวนอุตสาหกรรมที่ประสบภาวะน้ำท่วมที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการมีความกังวลใจใน 4 ประเด็นได้แก่ 1.กังวลว่าจะมีความพร้อมด้านการเงินที่จะสนับสนุนจากธนาคารออมสินเพื่อสร้างคันกั้นน้ำถาวร 2.รายละเอียดการสนับสนุนเงินจากรัฐ 2ใน 3 ในการสร้างเขื่อนกันน้ำ 3.ความพร้อมของระบบคมนาคมหรือโลจิสติกส์เมื่อน้ำท่วมภายนอก และ 4.ระยะเวลาสร้างเขื่อนมีจำกัดซึ่งจะต้องสิ้นสุด 31 ส.ค.2555
“กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานกับทุกภาคส่วน และพยายามที่จะเร่งรัดให้การก่อสร้างเขื่อนเป็นไปตามแผน โดยยอมรับว่าส่วนของสหรัตนนครนั้นจะเริ่มช้าสุด 1 เม.ย.2555 ซึ่งจะติดตามใกล้ชิด แต่นิคมฯ อื่นๆ ได้ทยอยเริ่มแล้ว หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เราก็มั่นใจว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้“รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
นายณัฐพล ณัฐฎสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานฟื้นฟูนิคมฯ สหรัตนนคร กล่าวว่า ผู้พัฒนาฯ ได้เสนอแผนที่จะลงทุนสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรระยะทาง 10 ก.ม. ลงทุน 1,000 ล้านบาท ซึ่งคงจะต้องพิจารณารายละเอียดว่าเป็นตัวเลขการลงทุนที่สูงเกินไปหรือไม่ เนื่องจากหากสูงเกินไป ก็อาจมีผลต่อการอนุมัติเงินกู้จากธนาคารออมสินได้
“ประเมินไว้ก่อนหน้านี้อยู่ที่กิโลเมตรละ 30 ล้านบาท แต่เขื่อนดินเก่าคงต้องปรับใหม่ให้แข็งแรงขึ้น ส่วนนี้จะต้องลงทุนเพิ่มอีกรวมแล้วก็น่าจะไม่ถึง 1,000 ล้านบาท”นายณัฐพลกล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการติดตามตัวเลขการลงทุนของแต่ละนิคมฯ ในการสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรอย่างใกล้ชิด เพราะบางรายเริ่มมีการปั่นตัวเลขการลงทุนเกินความจริง เพราะเห็นว่ารัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนวงเงินให้เปล่าในการสร้างเขื่อน 2ใน 3 ของเงินลงทุน
นายยาสุโนนริ ซาคูไร ประธานบริษัททีเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตเบาะ และแผงประตูรถยนต์ป้อนให้กับบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ซึ่งปีที่ผ่านมา ประสบภาวะน้ำท่วมจนทำให้โรงงานต้องหยุดกิจการ แต่ล่าสุดเรี่มนำเข้าเครื่องจักรมาติดตั้งใหม่แล้ววงเงินลงทุน 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ 1 มี.ค.2555 โดยคาดหวังว่านิคมฯ จะมีระบบป้องกันน้ำท่วม เพราะหากท่วมซ้ำอีกคงจะต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังพื้นที่อื่น แต่ยังคงยืนยันที่ไทย
