“กฟผ.” อ้อนคนไทยประหยัดช่วยเพิ่มสำรองไฟฟ้าหลังปี 2556 คาดสำรองไฟลดต่ำเหลือ 15% เหตุโรงไฟฟ้าเลื่อนจ่ายเข้าระบบหากท่อก๊าซฯ หยุดจ่ายกะทันหันผวาไฟดับ พร้อมสำรองแผนเล็งซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าเก่ารับมือ
นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กฟผ.กำลังติดตามสถานการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือพีกอย่างใกล้ชิด หลังขณะนี้พีกได้ทำลายสถิติต่อเนื่องถึง 7 ครั้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 55 ที่ 26,121 เมกะวัตต์ เติบโตขึ้น 8% จากปกติคาดการณ์ไว้ที่ 5% ขณะที่ปริมาณสำรองไฟฟ้ามีประมาณ 15% หรือ 3,000 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 31,446.7 เมกะวัตต์ ซึ่งหากพีกขยับอีก หรือปี 2556 ปริมาณการใช้ไฟขึ้นไปสูง 27,000-28,000 เมกะวัตต์ สำรองไฟที่มีอยู่จะน่าเป็นห่วงหากระบบท่อก๊าซธรรมชาติจ่ายก๊าซฯ ไม่ได้แบบฉุกเฉิน
“ปี 2556 ยอมรับว่าสำรองต่ำเนื่องจากโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่หรือไอพีพีบางรายเลื่อนจ่ายไฟเข้าระบบไปเป็นปี 2558 กำลังผลิตไฟฟ้าคงจะไม่ถึงตามสัญญา ซึ่งหากก๊าซหยุดจ่ายฉุกเฉินไม่เป็นไปตามแผนอีกก็อาจทำให้ไฟดับได้ ดังนั้น กฟผ.เองก็เตรียมแผนรับมือที่มองการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าเก่าเอาไว้เผื่อเกิดฉุกเฉินจริงๆ อย่างไรก็ตาม การประหยัดไฟฟ้าจะช่วยเรื่องปริมาณสำรองในอนาคตได้ จึงอยากจะขอร้องให้ประชาชนร่วมกันประหยัดซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายของประชาชนโดยตรงแล้วยังช่วยชาติอีกทางด้วย” นายสุทัศน์กล่าว
สำหรับปี 2555 แนวโน้มการใช้ไฟจะเพิ่มสูงขึ้น 5-6% ตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศ กฟผ.จึงดำเนินการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย โดยช่วงระหว่างปี 2557-2562 จะมีโรงไฟฟ้าใหม่เข้าระบบรวม 3,883.7 เมกะวัตต์ เช่น โรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่4 กำลังการผลิต 768.7 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 กำลังผลิต 782.2 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 2 กำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด เครื่องที่ 1 กำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (ลม แสงอาทิตย์ น้ำ ขยะ) กำลังผลิต 732.8 เมกะวัตต์ โครงการรับซื้อไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) ทั้งหมด 4,400 เมกะวัตต์ ฯลฯ
นายสุทัศน์ยังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 ถือเป็นวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 43 ปี กฟผ.ที่ได้บริหารจัดการผลิตไฟฟ้าและพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีความมั่นคงและเชื่อถือได้ด้วยต้นทุนที่เหมาะสมควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบัน( 31 ธ.ค. 54) ระบบ กฟผ.มีกำลังผลิตสัญญารวม 31,446.7 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 526.68 เมกะวัตต์ คิดเป็น 1.7% โดย 67.03% เป็นการผลิตจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ 18.65% จากถ่านหิน และที่เหลือซื้อไฟจากต่างประเทศ พลังน้ำ และพลังงานหมุนเวียนตามลำดับ