คายาริ ทุ่มงบ 10 ล้านบาทเปิดม่านบุกแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมลุยอาเซียน สิ้นปีหวังเพิ่มแชร์เป็น 17%
นางวรรณี ควรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจยากันยุงภายใต้แบรนด์คายาริ เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทพร้อมใช้งบลงทุนกว่า 10 ล้านบาทสำหรับการขยายไลน์การผลิตยากันยุงแบบขดจาก 500 ล้านขดต่อปีเป็น 700 ล้านขดต่อปี เพื่อรองรับการขยายตลาดและเออีซีที่จะเปิดในปี 2558 ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะนำสินค้าเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะจับมือร่วมกับพันธมิตรจากต่างประเทศเพื่อดำเนินธุรกิจยากันยุงร่วมกัน
ล่าสุดในเดือนพฤษภาคมนี้เตรียมส่งออกยากันยุงแบบขดเข้าไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ “คาวาริ” เพื่อเป็นการทดลองตลาดก่อนส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจัง โดยในปีแรกเน้นการสร้างแบรนด์สินค้าเป็นหลัก คาดการณ์ว่าสิ้นปีจะมีรายได้เพียง 2-3 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ยังพร้อมขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนอีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี โดยได้เริ่มทำตลาดในประเทศลาวแล้ว และกำลังเริ่มเจรจาการส่งออกไปยังประเทศกัมพูชาและศึกษาตลาดในประเทศพม่า อีกทั้งยังเตรียมขยายธุรกิจยากันยุงเข้าไปในตลาดยุโรปด้วย หลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 10%
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการดำเนินงานในประเทศนั้น บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของรูปแบบขด สเปรย์ ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในรูปแบบสเปรย์สูตรไพรีทัม นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวแบรนด์ บักเซอร์เวย์ หรือยากันยุงสำหรับสุนัข และสตาร์เพทท์ หรือโฟมอาบแห้งสำหรับสุนัขเข้าทำตลาด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ คาดว่าสิ้นปีน่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 16-17% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 15% ขึ้นเป็นอันดับ 3 ในตลาดยากันยุงแทนที่แบรนด์ช้าง ขณะที่อันดับ 2 เป็นของแบรนด์ห่านฟ้า 28% และอันดับ 1 เป็นของไบกอน 30%
ขณะที่ภาพรวมตลาดยากำจัดแมลง-ยุงในประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 10% ในปีก่อน ในมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นกลุ่มยากำจัดแมลงและยุง 2,000 ล้านบาท กลุ่มยาจุดแบบขด 1,120 ล้านบาท ในส่วนของบริษัทคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 250 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 25%