ASTVผู้จัดการรายวัน – “เลคิเซ่” เล็งบุกพม่าหนัก หลังเออีซีมีผลอีก 3 ปี พร้อมงบ 100 ล้านบาท ใช้จัดทัพเร่งสร้างแบรนด์รับศึกหนัก ขยายช่องทางโครงการมากขึ้น มั่นใจปีนี้รายได้รวมเติบโต 35%
นายสมนึก โอวุฒิธรรม ประธานกรรมการบริหาร เลคิเซ่กรุ๊ป และบริษัท เลคิเซ่ ไลท์ติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำน่ายหลอดไปและอุปกรณ์ไฟฟ้าเลคิเซ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความพร้อมในการรองรับการเปิดเออีซีหรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีผลในปี 2558 นี้หรืออีก 3 ปีจากนี้ ทั้งการรับมือในตลาดประทศไทยและการบุกตลาดต่างประเทศด้วย ภายใต้งบประมาณที่วางไว้เบื้องต้น 100 ล้านบาท ในการทำตลาด ซึ่งอาจจะมีการตั้งโรงงานฐานผลิตในต่างประเทศเพิ่มหรือไม่นั้นยังไม่มีการสรุป จากเดิมมีฐานผลิตในไทยที่สมุทรสาคร
ทั้งนี้บริษัทฯต้องเร่งสร้างแบรนด์เลคิเซ่ให้เป็นที่รู้จักและขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น หลังจากที่เพิ่งสร้างแบรนด์เลคิเซ่และแบรดน์ไดอิชิในไทยมา 3 ปี และต่างประเทศเพียงปีเดียวแต่ขยายแล้ว 6 ประเทศคือ เขมร พม่า ลาว เวียดนาม และซีเรียกับเลบานอน เพราะธุรกิจหลักที่ผ่านมาเป็นการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็ม ทั้งในทไยและในต่างประเทศมากกว่า 40 ประเทศ ซึ่งจากนี้ไปต้องหันมาเร่งสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองมากขึ้นผ่านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม
สำหรับการตลาดในประเทศจะเร่งขยายช่องทางจำหน่ายมากขึ้น จากเดิมมีช่องทางหลักคือ 1.ค้าปลีก ผ่านเอเย่นต์ ผ่านโมเดิร์นเทรดและช่องทางเอสซีจีที่เพิ่งเริ่มเมื่อปีที่แล้ว และ 2.ช่องทางโครงการ ซึ่งมีปริมาณลูกค้าแล้วกว่า 1,000 ราย โดยปีนี้มีแผนจะเน้นการรุกตลาดโครงการมากขึ้น
ส่วนรูปแบบการบุกต่างประเทศนั้นจะใช้วิธีการแต่งตั้งเอเย่นต์ดำเนินการให้ เนื่องจากมีความชำนาญในพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งหลังจากเออีซีมีผลแล้ว บริษัทฯให้ความสำคัญกับประเทศพม่าเป็นลำดับต้นๆ เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และยังเป็นตลาดใหม่ที่ไม่มีคู่แข่งมากนัก ซึ่งปัจจุบันเลคิเซ่ก็ไปทำตลาดแล้ว
ปีที่แล้วสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมีประมาณ 25% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มี 30% ซึ่งเคยสูงสุดที่ 80% ส่วนปีที่แล้วไทยมีสัดส่วนรายได้ 70% ขณะที่ปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศ 25% และไทย 75% หากแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็มอยู่ที่ 40% และแบรนด์ของบริษัท 60% ซึ่งคาดว่าปีนี้รายได้รวมจะเติบโต 35% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 30% แบ่งสัดส่วนรายได้มาจาก กลุ่มคอนซูเมอร์หรือรีเทล 65% กลุ่มโครงการ 15% และกลุ่มต่างประเทศ 25%
นายสมนึก โอวุฒิธรรม ประธานกรรมการบริหาร เลคิเซ่กรุ๊ป และบริษัท เลคิเซ่ ไลท์ติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำน่ายหลอดไปและอุปกรณ์ไฟฟ้าเลคิเซ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความพร้อมในการรองรับการเปิดเออีซีหรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีผลในปี 2558 นี้หรืออีก 3 ปีจากนี้ ทั้งการรับมือในตลาดประทศไทยและการบุกตลาดต่างประเทศด้วย ภายใต้งบประมาณที่วางไว้เบื้องต้น 100 ล้านบาท ในการทำตลาด ซึ่งอาจจะมีการตั้งโรงงานฐานผลิตในต่างประเทศเพิ่มหรือไม่นั้นยังไม่มีการสรุป จากเดิมมีฐานผลิตในไทยที่สมุทรสาคร
ทั้งนี้บริษัทฯต้องเร่งสร้างแบรนด์เลคิเซ่ให้เป็นที่รู้จักและขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น หลังจากที่เพิ่งสร้างแบรนด์เลคิเซ่และแบรดน์ไดอิชิในไทยมา 3 ปี และต่างประเทศเพียงปีเดียวแต่ขยายแล้ว 6 ประเทศคือ เขมร พม่า ลาว เวียดนาม และซีเรียกับเลบานอน เพราะธุรกิจหลักที่ผ่านมาเป็นการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็ม ทั้งในทไยและในต่างประเทศมากกว่า 40 ประเทศ ซึ่งจากนี้ไปต้องหันมาเร่งสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองมากขึ้นผ่านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม
สำหรับการตลาดในประเทศจะเร่งขยายช่องทางจำหน่ายมากขึ้น จากเดิมมีช่องทางหลักคือ 1.ค้าปลีก ผ่านเอเย่นต์ ผ่านโมเดิร์นเทรดและช่องทางเอสซีจีที่เพิ่งเริ่มเมื่อปีที่แล้ว และ 2.ช่องทางโครงการ ซึ่งมีปริมาณลูกค้าแล้วกว่า 1,000 ราย โดยปีนี้มีแผนจะเน้นการรุกตลาดโครงการมากขึ้น
ส่วนรูปแบบการบุกต่างประเทศนั้นจะใช้วิธีการแต่งตั้งเอเย่นต์ดำเนินการให้ เนื่องจากมีความชำนาญในพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งหลังจากเออีซีมีผลแล้ว บริษัทฯให้ความสำคัญกับประเทศพม่าเป็นลำดับต้นๆ เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และยังเป็นตลาดใหม่ที่ไม่มีคู่แข่งมากนัก ซึ่งปัจจุบันเลคิเซ่ก็ไปทำตลาดแล้ว
ปีที่แล้วสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมีประมาณ 25% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มี 30% ซึ่งเคยสูงสุดที่ 80% ส่วนปีที่แล้วไทยมีสัดส่วนรายได้ 70% ขณะที่ปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศ 25% และไทย 75% หากแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็มอยู่ที่ 40% และแบรนด์ของบริษัท 60% ซึ่งคาดว่าปีนี้รายได้รวมจะเติบโต 35% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 30% แบ่งสัดส่วนรายได้มาจาก กลุ่มคอนซูเมอร์หรือรีเทล 65% กลุ่มโครงการ 15% และกลุ่มต่างประเทศ 25%
