ตลาดสแน็กสาหร่ายเดือด โออิชิลงสนามปั้น “โอโนริ” ทุ่มงบ 100 ล้านบาทเน้นสร้างแบรนด์ในปีแรก วางเป้า 5 ปีไล่บี้ เถ้าแก่น้อย ตกแท่นผู้นำ พร้อมสยายปีกสแน็กกลุ่มอื่นๆ อีก ส่วนธุรกิจร้านอาหารเพิ่มสาขาใหม่ 60 สาขา มากกว่าเดิมอีกเท่าตัว
นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปีนี้จะขยายสาขาร้านอาหารในเครือรวม 60 สาขา มากกว่าแผนเดิมที่วางไว้ที่จะขยายประมาณ 30 สาขา เพราะบริษัทได้เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ขยายสาขาใหม่ไปแล้วจำนวน 45 สาขา ซึ่งส่งผลต้องเพิ่มงบลงทุนอีกจากเดิมวางที่ 500 ล้านบาทแต่ยังไม่สรุปวงเงินใหม่ รวมทั้งจะสร้างครัวกลางใหม่ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ลงทุน 500-600 ล้านบาท และอนาคตมีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตขนมขบเคี้ยวเองด้วย ซึ่งในอนาคตจะนำธุรกิจร้านอาหารเข้าไปขยายสาขาในต่างประเทศ เช่นเดียวกับการส่งออกกลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยวเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศ
ล่าสุดได้รุกธุรกิจขนมขบเคี้ยวหรือสแน็กภายใต้แบรนด์ “โอโนริ” โดยเริ่มที่ตลาดสาหร่าย ที่มีอัตราการเติบโตดีต่อเนื่องเฉลี่ยที่ปีละ 10-15% ส่งผลให้ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยแบรนด์เถ้าแก่น้อยเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งประมาณ 75% ตามด้วยซีลีโกะ 13% และมาชิตะ 8%
แผนปีแรกนี้จะใช้งบ 100 ล้านบาทเน้นการสร้างแบรนด์โอโนริก่อน ผ่านการทำกิจกรรมทางการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การทำโปรโมชันร่วมกับร้านค้า และการแจกสินค้าตัวอย่างจำนวน 2 ล้านชิ้น ซึ่งในส่วนของไตรมาส 3 บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวรสชาติใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นจากขณะนี้มีสินค้า 2 รสชาติเข้าทำตลาด คือ รสต้นตำรับญี่ปุ่น และรสพริกญี่ปุ่น
บริษัทฯ คาดว่าปีแรกนี้จะมียอดขายสาหร่าย 200 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 440 ล้านบาทในปีที่ 2, ปีที่ 3 รายได้ 726 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาทในปีที่ 4 และ 1,500 ล้านบาทในปีที่ 5 ขึ้นเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 50% ในตลาดรวมสาหร่ายปรุงรส ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเปิดตัวขนมขึ้นรูปสไตล์ญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดอีกด้วย โดยในช่วง 5 ปีนับจากนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวขนมขบเคี้ยวเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจอาหาร ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีรายได้ 8,000 ล้านบาทจากรายได้รวมทั้งหมด 13,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้รายได้รวมธุรกิจอาหารคาดว่าจะอยู่ที่ 5,200 ล้านบาทเติบโต 27% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,100 ล้านบาท