คณะอนุฯ เอฟทีชงขึ้นค่าไฟเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 55 พุ่งปรี๊ด 37-38 สตางค์ต่อหน่วย ขนาดให้ กฟผ.แบกของเดิมไปก่อน 8,000 ล้านบาทยังเอาไม่อยู่ ลุ้นคณะกรรมการเอฟทีเคาะสรุปตัวเลขจริง 25 เมษายนนี้
แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการกำกับสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที เปิดเผยว่า จากการหารือถึงโครงสร้างต้นทุนค่าเอฟทีที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนรอบใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 55) เบื้องต้นจะต้องปรับขึ้นค่าเอฟทีเฉลี่ยประมาณ 37-38 สตางค์ต่อหน่วย โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระ 18 สตางค์ต่อหน่วย หรือประมาณ 8,000 ล้านบาทของเดิมที่ตรึงงวดที่ผ่านมาไปก่อน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของคณะกรรมการเอฟทีที่มีนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เป็นประธานพิจารณาวันที่ 25 เมษายนนี้
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) กล่าวว่า วันที่ 25 เมษายนนี้จะพิจารณาเห็นชอบค่าเอฟทีงวดใหม่ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2555 ซึ่งล่าสุดคณะอนุกรรมการเอฟทีได้พิจารณาตัวเลขมาแล้วระดับหนึ่ง โดยยอมรับว่าที่สุดจะต้องปรับขึ้นแน่นอนและเบื้องต้นมีแนวโน้มว่าจะมากกว่า 20 สตางค์ต่อหน่วย
“เราคงจะต้องหารือและดูตัวเลขกันอีกครั้งวันที่ 25 เมษายนนี้ว่าจะบริหารให้ต่ำกว่าที่เสนอได้หรือไม่ ซึ่งจะพยายามขึ้นให้น้อยสุด ซึ่งส่วนหนึ่งแน่นอนว่าประชาชนจะต้องรับภาระบ้างและอีกส่วนจะให้ กฟผ.เข้ามารับภาระ แต่อีกส่วนก็เกิดจากการบริหารจัดการ” นายดิเรกกล่าว
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ผลิตไฟฟ้ามากกว่า 70% มาจากก๊าซธรรมชาติที่ล่าสุดได้ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันโดยภาพรวมส่วนนี้ทำให้ต้นทุนเอฟทีเพิ่ม 30 กว่าสตางค์ต่อหน่วย ขณะที่งวดที่ผ่านมา กฟผ.รับภาระไป 8,000 ล้านบาทโดยการตรึงค่าเอฟทีไม่ให้ขึ้นอีก 18 สตางค์ต่อหน่วย รวม 2 ส่วนก็จะทำให้เอฟทีงวดนี้ขึ้นถึง 50 สตางค์ต่อหน่วยแล้ว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดอนุฯ เอฟทีได้พิจารณานำเงินที่เหลือจากการลงทุน 3 การไฟฟ้าวงเงิน 3,200 ล้านบาทมาลดต้นทุนได้ประมาณ 6 สตางค์ต่อหน่วย