xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้น 25 เม.ย.เคาะขึ้นค่าไฟงวดใหม่ กฟผ.ชงขยับ 25 สต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 เรกูเลเตอร์ถกต้นทุนค่าไฟ 23 เมษายนนี้ก่อนเคาะตัวเลขจริง 25 เมษายน ส่งสัญญาณประชาชนทำใจต้องขยับสูงเหตุราคาก๊าซฯ ขาขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ กฟผ.ชงขึ้น 25 สตางค์ต่อหน่วย

นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า วันที่ 23 เมษายนนี้คณะอนุกรรมการกำกับสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จะพิจารณาปัจจัยต้นทุนการผลิตไฟฟ้าภาพรวมทั้งหมดเพื่อนำเสนอคณะกรรมการเอฟทีเคาะตัวเลขการปรับขึ้นค่าเอฟทีรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 55 วันที่ 25 เมษายนนี้อีกครั้งหนึ่ง โดยเบื้องต้นจะต้องปรับเพิ่มขึ้นบางส่วนแน่นอนเพราะแนวโน้มราคาพลังงานยังสูงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ยอมรับว่าต้นทุนเชื้อเพลิงโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติมีการปรับเพิ่มขึ้นมาก โดยภาพรวมตัวเลขที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอมากว่า 30 สตางค์ต่อหน่วย แต่การปรับขึ้นคงจะต้องดูผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและขีดความสามารถการแข่งขันภาคอุตสาหกรรม ความสามารถในการรับภาระของ กฟผ.ที่เอฟทีรอบเดือนมกราคม-เมษายน 55 ได้แบกภาระไปแล้ว 8,000 ล้านบาทจะแบกรับได้อีกมากน้อยเพียงใด

อย่างไรก็ตาม เรกูเลเตอร์จะพิจารณาปัจจัยที่จะนำมาลดค่าไฟ เช่น การนำเงินของ 3 การไฟฟ้าที่ไม่ได้ลงทุนตามแผนหรือคอลแบ็กจำนวน 3,200 ล้านบาท และยังต้องนำผลจากการขอความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมลดใช้ไฟฟ้า 20% ในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 13.30-15.30 น. ในช่วง 4 วัน ระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน และวันที่ 17 เมษายน ว่าสามารถทำให้ลดการใช้น้ำมันที่มีราคาสูงในการผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซฯ ที่หายไปมากน้อยเพียงใดประกอบด้วยซึ่งคาดว่าจะลดค่าไฟได้อีกส่วนหนึ่ง

“วันที่ 25 เมษายนคงจะรู้ตัวเลขที่ชัดเจนแล้วนำประชาพิจารณ์ก่อนประกาศเรียกเก็บกับบิลค่าไฟประชาชนรอบใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าที่สุดแล้วต้องขึ้นเพราะต้นทุนสูงมาก หากเป็นไปได้อยากให้สะท้อนต้นทุนจริงเพราะที่สุดเราอุ้มไว้ก็จะไม่ต่างจากราคาแอลพีจีและเอ็นจีวีที่มีปัญหาเช่นทุกวันนี้” นายกวินกล่าว

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ทำให้เตรียมเสนอเรกูเลเตอร์ปรับขึ้นค่าไฟรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม อีกประมาณหน่วยละ 25 สตางค์ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติในการคำนวณค่าเอฟทีงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมอยู่ที่ประมาณ 300 บาทต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นจากอัตราฐานเปรียบเทียบที่คำนวณค่าเอฟทีในปีที่แล้วที่ 260 บาทต่อล้านบีทียู แต่ค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ที่ระดับใดนั้นขึ้นกับเรกูเลเตอร์เป็นผู้พิจารณา
กำลังโหลดความคิดเห็น