ซัมเมอร์ร้อนแรง ส่งเครื่องดื่มขายดี เซเว่นฯใจชื้น ครึ่งปีแรกตุนรายได้เข้ากระเป๋าอื้อ มั่นใจทั้งปีโตแน่ 15% ล่าสุด บุกหนักช่องทางแคตตาล็อก จับมือไปรษณีย์ไทยช่วยกระจายสินค้า พร้อมบริหารทรัพยากรร่วมกัน มั่นใจส่งลูกค้าสั่งซื้อมากขึ้น 20%
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในเครือซีพี เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2555 พบว่า ยังเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ คือ เติบโตเฉลี่ย 5% ถึงแม้ว่ายอดขายในช่วง ม.ค.-ก.พ.จะโตราว 4% เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว โรงงานที่ถูกน้ำท่วมเริ่มกลับมาผลิตได้บ้าง พอมาถึง มี.ค.ยอดขายโตราว 10% จากสภาพอากาศที่ร้อน ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ไตรมาสแรกจึงทำได้ราว 6-7% โตกว่าเป้าเล็กน้อย
ดังนั้น ในไตรมาสสองนี้ จึงมั่นใจว่า ทิศทางการเติบโตจะดีขึ้นต่อเนื่อง หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่ม เฉพาะช่วงหน้าร้อนนี้จะสร้างยอดขายหลักให้เซเว่นฯ หรือมีอัตราการเติบโตมากกว่าปกติ 20%
นอกจากนี้ จากแผนการขยายสาขาอีก 500 สาขาในปีนี้ และสามารถขยายได้แล้วกว่า 200 สาขา รวมแล้วปัจจุบันเปิดให้บริการราว 6,500 สาขา จะส่งผลให้ครึ่งปีแรกนี้ เซเว่นฯจะมีรายได้เข้ามามากกว่าครึ่งปีหลัง เพราะเราไม่มั่นใจว่าครึ่งปีหลังจะมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ดังนั้น จึงต้องตุนรายได้ให้ได้มากไว้ก่อน กล่าวคือ มาจากสาขาเดิมที่มียอดขายเติบโตขึ้น 5% บวกกับรายได้จากสาขาใหม่อีกส่วนหนึ่ง คาดว่า ไตรมาสสองรายได้จะเติบโตขึ้นอีกต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่า แนวโน้มทั้งปี เซเว่นฯจะมีรายได้เติบโตขึ้นได้ที่ 15%
ล่าสุด ในส่วนของช่องทางแคตตาล็อก ทางบริษัทได้จับมือกับทางไปรษณีย์ไทย ในการเข้ามาช่วยกระจายสินค้าให้ ทั้งในส่วนของแคตตาล็อก และสินค้าที่ลูกค้าสั่งไปตามบ้าน จากเดิมที่ลูกค้าจะสั่งและซื้อผ่านหน้าร้านเซเว่นฯ หรือสั่งผ่านไปรษณีย์ไทยจะเสียค่าบริการที่ 100 บาท จากนี้จะดีขึ้นโดยลูกค้าเสียค่าบริการลดลง 50% มั่นใจว่า จากบริการที่สะดวกขึ้นครั้งนี้ จะส่งผลให้มีรายได้จากแคตตาล็อกเพิ่มขึ้นได้อีกอย่างน้อย 20%
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะมีขยายความร่วมมือและใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ไปรษณีย์ไทยช่วยกระจายสินค้าให้ ทางเซเว่นฯยังทำหน้าที่เป็นหน้าร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของทางไปรษณีย์ไทยด้วย ทั้ง แสตมป์ ไปรษณียบัตร และกล่องพัสดุภัณฑ์ อนาคตยังจะมีบริการรับฝากพัสดุภัณฑ์ของทางไปรษณีย์ไทยที่ร้านเซเว่นฯต่อไปด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาถึงรายละเอียดกันอยู่ คาดว่า ไม่เกินปีนี้จะได้เห็นบริการดังกล่าว
นายปิยวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมัน มีซัปพลายเออร์บางรายขอปรับราคาสินค้าขึ้น แต่เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับทางกระทรวงพาณิชย์ โดยทางเซเว่นฯพร้อมปฏิบัติตาม แต่จะขอขึ้นราคาเป็นรายสุดท้าย ส่วนเรื่องค่าแรง 300 บาท นำร่อง 7 จังหวัดนั้น ได้เริ่มปรับขึ้นไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา จากปัจจุบันเซเว่นฯมีพนักงานรวมทั้งสิ้นร่วมแสนคน