“กิตติรัตน์” มั่นใจ พ.ร.ก.เงินกู้ 2 ฉบับ วงเงิน 3.5 แสนล้าน ไม่ขัด กม.มั่นใจผ่านการพิจารณาศาล รธน.พร้อมย้ำ ครม.พิจารณารอบคอบ เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้ผลักดันร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2555 และร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 วงเงิน 350,000 ล้านบาท จึงต้องเชื่อว่า พ.ร.ก.ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว จะผ่านการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ขณะเดียวกัน ตนก็ได้ดำเนินการชี้แจงต่อศาลด้วยข้อมูลที่เป็นจริง
สำหรับในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ ที่ศาลนัดฟังคำวินิจฉัย อาจมอบหมายให้นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ไปรับฟังคำตัดสินแทน เนื่องจากติดภารกิจประชุม ครม.ที่จังหวัดอุดรธานี
ส่วนกรณีที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือ FATF ขึ้นบัญชีดำประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 ประเทศ ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศ ว่าด้วยการสกัดการฟอกเงิน และการให้ทุนสนับสนุนการก่อการร้ายนั้น ตนเองจะรีบหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขเนื่องจากการขึ้นบัญชีดำดังกล่าวจะมีผลกระทบทางอ้อมต่อกระบวนการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นยังได้รายละเอียดไม่ครบถ้วน