xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าไทยระดมกูรูแก้วิกฤตน้ำ ไม่อยากเห็นเศรษฐกิจเจ๊งซ้ำรอยเดิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - หอการค้าไทยระดมสมองป้องกันวิกฤตน้ำเกิดซ้ำสอง หลังน้ำท่วมล่าสุดทำเศรษฐกิจไทยเสียหายกว่า 1.3 ล้านล้านบาท เชิญ “สุเมธ” แจงแนวทางแก้ปัญหาน้ำตามแนวทางพระราชดำริ พร้อมเชิญ “เสรี” ให้ข้อมูลน้ำ เหตุปีนี้มาอีก หากไม่ป้องกันให้ดี เศรษฐกิจเสียหายหนัก จับตางบแก้น้ำท่วมถาวร 3.5 แสนล้าน ต้องชัดและแจงรายละเอียดได้ หวั่นการเมืองสบช่องใช้วิกฤตเป็นโอกาส

นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยจะจัดเวทีระดมสมองในหัวข้อเรื่อง “น้ำ! มิตรหรือศัตรู กับหนทางสู่ความผาสุกอย่างยั่งยืน” ในวันที่ 13 ม.ค.2555 นี้ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เพื่อหาแนวทางป้องกันผลกระทบจากน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในปีนี้ เพราะปัญหาน้ำท่วมยังไม่จบ มีการคาดกันว่า อีก 4-5 เดือนข้างหน้านี้ ฝนจะมา น้ำจะมาอีก หากไม่มีแนวทางการป้องกันที่ชัดเจน และมีระบบเตือนภัยล่วงหน้า ปัญหาก็อาจจะเกิดขึ้นอีก และกระทบต่อเศรษฐกิจของไทย
 
ทั้งนี้ ปัญหาน้ำท่วมในรอบที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศแล้ว 1.3 ล้านล้านบาท เป็นความเสียหายต่อทรัพย์สินประมาณ 7 แสนล้านบาท ผลกระทบต่อจีดีพีประมาณ 3.4 แสนล้านบาท และกระทบต่อรายได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกประมาณ 3 แสนล้านบาท

“เรามีบทเรียนที่เกิดขึ้นแล้ว ถ้าปล่อยไปก็อาจจะเกิดขึ้นอีก ความเสียหายก็จะมีอีก ถ้าเราใช้อดีตแล้วนำมาเป็นบทเรียน เพื่อให้รู้ว่าที่ผ่านมา เราพลาดตรงไหน แล้วหาทางแก้ไข ปัญหาน้ำท่วมซ้ำก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะอีกไม่กี่เดือนฝนก็จะมาแล้ว น้ำท่วมจะเริ่มมาใหม่ สต๊อกน้ำที่มีอยู่เดิม ก็ค้างอยู่ในทุ่ง ถ้ามารอบนี้มาไว ไม่อยากพูดให้กลัว แต่หลายๆ คนก็มีการประเมินแล้วว่าปีนี้น้ำจะมาอีก และมาเร็ว เพราะปีนี้มันเกิดวิกฤตไปหมด วิกฤตจากภัยธรรมชาติมาเร็ว และจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ” นายวิชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการประเมินแนวโน้มน้ำในปีนี้ หอการค้าไทยจะเชิญดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาและที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารทรัพยากรน้ำ (กยน.) มาให้ความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำตามแนวทางพระราชดำริ มาถ่ายทอดให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสอนอะไรในเรื่องน้ำ และมีแนวทางในการบริหารจัดการน้ำอย่างไร และจะเชิญ ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ มาให้ข้อมูลน้ำในปีนี้ว่าจะมาจะไปอย่างไร เพื่อที่จะได้วางแผนป้องกันได้ถูกต้อง

นายวิชัย กล่าวว่า หอการค้าไทยเห็นด้วยกับแนวทางการบริหารจัดการน้ำ ที่รัฐบาลได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เพราะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการ โดยจากนี้ไป เอกชนต้องการให้รัฐสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น และทำความเข้าใจกับแผนงานต่างๆ ที่จะดำเนินการให้ชัดเจน

ทั้งนี้ ความคืบหน้าล่าสุด รัฐบาลได้มีการวางยุทธศาสตร์การทำงาน โดยแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ 1.การฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำ ทั้งในการปลูกป่าและการทำฝายชะลอน้ำ ในพื้นที่สูงและภูเขา 2.การจัดทำแหล่งกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ โดยการขุดลอก หนองบึงธรรมชาติ ในลักษณะแก้มลิงเพื่อชะลอและกักเก็บน้ำ 3.ทบทวนและฟื้นฟูโครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ เช่น การซ่อมแซมคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ และเร่งรัดโครงการระบายน้ำตามคลองชายทะเล รวมทั้งการสร้างทางระบายน้ำ (Flood way) และ 4.ทบทวนระบบการจัดเก็บและการวิเคราะห์ข้อมูลด้านน้ำ ให้มีความเป็นเอกภาพ

“หอการค้าไทย เห็นว่า การตั้งงบประมาณในการบริหารจัดการน้ำสูงถึง 3.5 แสนล้านบาท มีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง รัฐบาลจะต้องชี้แจงและแจกแจงรายละเอียดให้ชัดเจนว่าเงินใช้ทำอะไรบ้าง ไม่ใช่ตั้งแค่ตัวเลขไว้สูงๆ เพื่อหางบประมาณมาใช้ เพราะในวิกฤตก็มีบางคนที่มองเห็นโอกาส อย่าให้เงินของประชาชนต้องสูญเปล่า แต่ถ้าเงิน 3.5 แสนล้านบาท สามารถนำไปใช้แก้น้ำท่วมได้จริง ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะปีที่แล้วประเทศเสียหายจากน้ำท่วม 1.3 ล้านล้านบาท แลกกับเงินลงทุน 3.5 แสนล้านบาท ถือว่าคุ้มค่าที่จะทำ” นายวิชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น