เหยื่อน้ำท่วมยังโคม่า ทั้งสภาพจิตใจ การว่างงาน และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น นักวิชาการเสนอ รบ.ควรให้มีมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน ขณะที่ ธอส.เตรียมปล่อยสินเชื่อหมื่นล้าน ช่วยผู้ประสบภัย พร้อมมาตรการผ่อนปรนชำระหนี้
รศ.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสนอให้มีมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน หลังภัยพิบัติน้ำท่วม โดยแบ่งเป็นมาตรการระยะสั้น คือ การจัดมหกรรมการจ้างงาน เพื่อให้แรงงานที่ว่างงานมาทำการฟื้นฟูสถานที่ราชการ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เช่น การทำความสะอาด การซ่อมแซมอาคาร หรือการขุดลอกคูคลองเพื่อเปิดทางน้ำ และอาชีพอิสระ
ส่วนมาตรการระยะยาวเห็นว่า ควรให้มีการทบทวนการสร้างธนาคารคนงาน โดยนำเงินจากประกันสังคมมาเป็นแหล่งทุนให้กับคนงาน ในการประกอบอาชีพอิสระที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้
ขณะที่ นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน ฝ่ายการวิจัยทรัพยากรมนุษย์และพัฒนาสังคม สถาบันวิจัยเพื่อการพัมนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอให้รัฐบาลจ้างแรงงานที่มีฝีมือในสาขาต่างๆ ที่ยังว่างงานเป็นผู้ฝึกสอนให้กับแรงงาน เพื่อสร้างรายได้ และยังเป็นการพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งทบทวนความรู้ของผู้ใช้แรงงานในระหว่างที่สถานประกอบการ ยังไม่สามารถเปิดสายพานการผลิตได้
ด้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและบ้านที่เสียหายไว้ 2 แนวทาง คือ ปล่อยสินเชื่อ เพื่อสร้างและซ่อมแซ มบ้านหลังน้ำลด วงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยหากมีหลักทรัพย์ค้ำประกันจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 คงที่ 5 ปี ให้วงเงินร้อยละ 100 ของราคาประเมิน หรือไม่เกิน 1 ล้านบาท หากกรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี คงที่ 5 ปี โดยจะให้กู้รายละไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งต้องมีบุคคลรายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ของวงเงินกู้มาเป็นผู้ค้ำประกัน และจนถึงขณะนี้ มีผู้ยื่นขอกู้ 60,000 ราย อนุมัติแล้ว 50,000 ราย ขณะเดียวกัน ทาง ธอส.มีมาตรการผ่อนปรนการชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนให้แก่ลูกค้า โดยจะประเมินตามความเสียหาย
